Phish Live at Sphere: Moment Factory Harnesses Sphere’s Next-Generation Technologies to Reimagine Concert Experience

A four-night concert series takes real-time content to new heights

LAS VEGAS, NV / ACCESSWIRE / April 19, 2024 / Award-winning multimedia studio Moment Factory is proud to announce its latest collaboration with Phish: a groundbreaking four-night concert series at Sphere in Las Vegas. Running from April 18 to 21, the shows mark a bold step forward in live concert experiences, taking advantage of the venue's next-generation technologies to showcase immersive multimedia content generated from an innovative fusion of real-time and pre-rendered visuals. Only the second band to perform at Sphere, Phish ventures into new territory with its improvisational style, leading concert-goers on a mind-bending multisensory journey.

Phish Live at Sphere
Phish Live at Sphere
Credits: Rich Fury / Sphere Entertainment

Moment Factory played a central role in the co-creative direction of the four shows, collaborating closely with Show Director Abigail Rosen Holmes. The studio's involvement extended to set design, video design, and production, as well as contributing to lighting concepts in collaboration with the band's longtime lighting designer, Chris Kuroda.

Moment Factory takes a future-forward approach to real-time generative video content, bringing unique visuals to the world's highest-resolution LED screen each night. Combining scenographic elements, 360° live performance capture, technologies including Unreal and Notch, pre-rendered imagery, and visuals generated with the assistance of AI, Moment Factory uses a number of tools and techniques never before seen at Sphere.

"Phish Live at Sphere is an incredibly audacious project that we are thrilled to have worked on. We feel extremely privileged to have legendary bands like Phish entrusting us with creating immersive universes around their music and identity, enabling them to connect with fans in completely new ways. Moment Factory got its start VJing in the late 90s, and we are particularly proud, nearly 25 years later, to have maintained this initial passion. We are now pushing it to an unprecedented level, creating the longest-ever real-time content show on the world's most immersive canvas at Sphere," says Daniel Jean, Producer for Shows, Moment Factory.

Powered by the venue's 21st-century technologies, each show in the four-night series is set apart by a curated setlist, Phish's signature improvisation, and a customized orchestration of music, visuals, and lighting.

Rising to this creative and technical challenge, the team worked closely with a trusted network of collaborators, including Disguise, whose innovative platform powered Moment Factory's extensive hours of pre-rendered and real-time visual content on a sprawling 16K x 16K resolution canvas. Fuse Technical Group served as the technical integrator for the video system, managing the incorporation of Moment Factory's content onto servers and providing supplementary servers for real-time content delivery. Moment Factory also enlisted Fly Studio, Myreze, and Sila Sveta for screen content production; Troublemakers for audio design during Phish's stage entrance; and Picnic Dinner Studios and Totem Studio for 2D animations during the intermission.

Phish Live at Sphere marks the Montreal-based studio's seventh and most ambitious collaboration with the prolific rock band. Their long-term creative partnership includes previous concerts at Madison Square Garden and the MGM Grand.

This latest undertaking highlights Moment Factory's expertise in hijacking technologies to create innovative entertainment - artificial intelligence serving as a prime example. Integrating AI seamlessly into workflows and customizing the technology to meet production demands supports the studio's commitment to innovation, collaboration, and pushing creative boundaries. Moment Factory embraces AI as a tool for pioneering new aesthetics, modes of engagement, and experiences that blend digital and physical worlds.

About Moment Factory

Moment Factory is a multimedia studio with a full range of production expertise under one roof. Our team combines specializations in video, lighting, architecture, sound and special effects to create remarkable experiences. Headquartered in Montreal, the studio also has other addresses in Tokyo, Paris, New York City, and Singapore. Since its inception in 2001, Moment Factory has created more than 550 unique projects worldwide, including the Lumina Night Walks and Aura Series, as well as The Messi Experience. Its productions span the globe and include such clients as Olivia Rodrigo, Billie Eilish, Madonna, Microsoft, Disney, Universal Studios, Sony, Boston Museum of Science, Cipriani, and Fontainebleau Las Vegas. The studio explores innovative storytelling and creative uses of technology to craft immersive multimedia worlds that enhance the vital link between artist and audience.

momentfactory.com

To download photos and videos: PRESS KIT

Contact Information

Maïté Godin
Chargée aux relations publiques
media@momentfactory.com
1-514-814-6967

SOURCE: Moment Factory

.

View the original press release on newswire.com.

EBC Financial Group ร่วมมือกับ United to Beat Malaria ซึ่งเป็นแคมเปญของ United Nations Foundation เพื่อปกป้องเด็ก ๆ ที่อ่อนแอและครอบครัวของพวกเขาจากโรคมาลาเรีย

EBC Financial Group กล่าวถึงความพยายามในการกำจัดโรคมาลาเรีย การสนับสนุนการแทรกแซงด้านสุขภาพกับปัญหาวิกฤต และการส่งเสริมศักยภาพให้ชุมชน

WASHINGTON, April 18, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — วันนี้ EBC Financial Group (EBC) ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ United to Beat Malaria (Beat Malaria) ซึ่งเป็นแคมเปญของ United Nations Foundation (UN Foundation) ที่มีเป้าหมายปกป้องผู้ที่อ่อนแอที่สุดจากโรคมาลาเรียซึ่งมียุงเป็นพาหะ โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 600,000 รายทุกปี

ความร่วมมือครั้งนี้ให้การสนับสนุนแคมเปญ United to Beat Malaria ซึ่งทำงานเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงเพื่อป้องกันโรคมาลาเรียและให้บริการด้านสุขภาพที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของ UN Foundation ในการทำให้สุขภาพดีขึ้นและโลกที่เท่าเทียมกันมากขึ้น UN Foundation รวบรวมแนวคิด ผู้คน และทรัพยากรเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าระดับโลก และรับมือกับปัญหาท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ UN Foundation มีโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่ร่วมกันปกป้องเด็ก ๆ หลายสิบล้านคนจากโรคภัยไข้เจ็บ สร้างความร่วมมือเพื่อให้ความช่วยเหลือและให้ความหวังแก่ผู้ลี้ภัย และระดมคนในชุมชนให้ดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่หน้า Capitol Hill
EBC พร้อมด้วยผู้แทนในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ปี 2024 ที่ Capitol Hill

EBC พร้อมด้วยผู้แทนในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ปี 2024 ที่ Capitol Hill

EBC รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับแคมเปญ United to Beat Malaria และผนึกกำลังเพื่อกำจัดโรคมาลาเรียอย่างได้ผล ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความทุ่มเทของ EBC ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร และการสนับสนุนเด็กด้อยโอกาส EBC ตระหนักถึงผลกระทบอย่างมากของโรคมาลาเรียที่มีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของภูมิภาคที่ยากจน รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างภูมิภาคที่พัฒนาแล้วและภูมิภาคที่ด้อยพัฒนามากยิ่งขึ้น โรคมาลาเรียส่งผลกระทบต่อเด็กเล็กอย่างไม่เป็นสัดส่วน: มากกว่า 75% ของผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียทั้งหมดเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ มีเด็กเสียชีวิตเกือบทุกนาทีจากโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้นี้

David Barrett CEO ของ EBC Financial Group (UK) Ltd ซึ่งเป็นหน่วยงานในอังกฤษของ EBC กล่าวว่า “การได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำของ United to Beat Malaria ในปี 2024 และได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินการไม่เพียงเป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ให้ความกระจ่างแก่ผมอีกด้วย” “การได้เห็นผลกระทบโดยตรงที่ EBC Group ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับองค์กรต่าง ๆ เช่น United to Beat Malaria เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างความแตกต่างในชุมชนที่เราให้บริการ”

ข้อมูลเชิงลึกจากความร่วมมือในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ปี 2024
Dr. Sara Hendrix ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอลาบามาและผู้สนับสนุน Beat Malaria ร่วมกับ David Barrett CEO ของ EBC Financial Group (UK) Ltd

Dr. Sara Hendrix ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอลาบามาและผู้สนับสนุน Beat Malaria ร่วมกับ David Barrett CEO ของ EBC Financial Group (UK) Ltd

Margaret McDonnell กรรมการบริหารของ Beat Malaria กล่าวว่า “ความร่วมมือของเรากับ EBC Group เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นร่วมกันในการปกป้องเด็กและครอบครัวที่อ่อนแอที่สุดในโลกให้พ้นจากโรคที่ร้ายแรงแต่สามารถป้องกันได้” “การสนับสนุนของ EBC จะช่วยให้แคมเปญของเราเข้าถึงชุมชนที่มีความเสี่ยงและให้การแทรกแซงเพื่อช่วยชีวิตในประเทศที่มีโรคมาลาเรียระบาดเพื่อรักษาชีวิตและปรับปรุงคุณภาพชีวิต”

ปัจจุบัน โรคมาลาเรียเป็นโรคที่เกิดจากความยากจนและความไม่เท่าเทียมด้านสุขภาพ ซึ่งมีการแพร่กระจายไปยังผู้คนจากการถูกยุงก้นปล่องกัด ซึ่งเป็นพาหะนำโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตที่เกิดจากปรสิตพลาสโมเดียมในเลือด เครื่องมือในการป้องกัน วินิจฉัย และรักษาโรคมาลาเรียมีความคุ้มค่ามาก แต่ผู้คนนับล้านทั่วโลกไม่สามารถเข้าถึงวิธีการช่วยชีวิตเหล่านี้ ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกยังคงมีความเสี่ยงต่อโรคมาลาเรีย โดยมีผู้ป่วยมากกว่า 240 ล้านรายต่อปี โรคมาลาเรียแพร่กระจายมากที่สุดใน Africa ซึ่งคิดเป็น 94% ของผู้ป่วยทั้งหมดทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ประชากรพลัดถิ่น และชุมชนห่างไกลที่เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างจำกัดและไม่เป็นสัดส่วน

โลกเรามีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งในการต่อสู้กับโรคโบราณนี้ โดยสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมาลาเรียลงได้ประมาณครึ่งหนึ่ง เราสามารถเป็นคนในรุ่นที่กำจัดโรคมาลาเรียได้ตลอดไป ด้วยการให้เงินทุน ความร่วมมือ และเจตจำนงทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากการสนับสนุนทางการเงิน EBC ยังพยายามให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับโรคมาลาเรีย และสนับสนุนให้พวกเขามีส่วนร่วม เดือนที่แล้ว Samuel Hertz ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาค APAC ของ EBC Financial Group พร้อมด้วย David Barrett ได้เข้าร่วมกับผู้สนับสนุน ผู้เชี่ยวชาญ และผู้นำเกี่ยวกับโรคมาลาเรียกว่า 100 คนในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ประจำปีใน Washington DC การประชุมเป็นเวลา 3 วันเป็นเวทีสำหรับการเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และสนับสนุนความเป็นผู้นำระดับโลก โดยเน้นการดำเนินการร่วมกันที่จำเป็นเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสาธารณสุขที่สำคัญนี้ นอกจากนี้ พนักงานของ EBC จะเข้าร่วมในกิจกรรมต่อต้านโรคมาลาเรีย 5K ที่กำลังจะมาถึง (25 เมษายน-5 พฤษภาคม) ที่จัดขึ้นจากระยะไกล 5K ทั่วโลก เพื่อระดมทุนและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมาลาเรีย

กิจกรรมต่อต้านโรคมาลาเรีย 5k ปี 2024
ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2024 เข้าร่วมกับผู้สนับสนุนทั่วโลกสำหรับกิจกรรมต่อต้านโรคมาลาเรีย ซึ่งเป็นกิจกรรมเสมือนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ และระดมทุนเพื่อสนับสนุนการจัดหาเครื่องมือและโปรแกรมการรักษาโรคมาลาเรียที่ช่วยชีวิตได้

ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2024 เข้าร่วมกับผู้สนับสนุนทั่วโลกสำหรับกิจกรรมต่อต้านโรคมาลาเรีย ซึ่งเป็นกิจกรรมเสมือนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ และระดมทุนเพื่อสนับสนุนการจัดหาเครื่องมือและโปรแกรมการรักษาโรคมาลาเรียที่ช่วยชีวิตได้

Samuel Hertz กล่าวว่า “ในฐานะบริษัท เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั่วโลก โดยตระหนักว่าโรคมาลาเรียเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อชีวิตของพวกเขา ในการประชุมสุดยอดนี้ เราได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการกำจัดโรคมาลาเรียทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความพยายามนี้ต้องได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากพันธมิตรที่หลากหลาย ซึ่งทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรนี้ แม้ว่าเส้นทางไปข้างหน้าอาจมีความท้าทายและยาวนาน แต่เราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญต้องใช้เวลาและความพยายาม ในฐานะบริษัทระดับโลก EBC รับทราบถึงความรับผิดชอบในการมีส่วนร่วมทำให้โลกดีขึ้น”

ผู้สนับสนุนจาก EBC Financial Group ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สนับสนุนจากทั่วโลกในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการกำจัดโรคมาลาเรีย และส่งเสริมความเท่าเทียมด้านสุขภาพทั่วโลก

เมื่อมองไปข้างหน้า EBC วางแผนที่จะสร้างความร่วมมือเชิงลึกกับองค์กรการกุศลที่เกี่ยวข้องกับ UN และพันธมิตรระดับโลกเพื่อสนับสนุนระบบสุขภาพทั่วโลก จากความพยายามและความมุ่งมั่นที่มีต่อความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร EBC มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความแตกต่างด้านสุขภาพและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในระดับโลก

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ ebc.com และ beatmalaria.org

เกี่ยวกับ EBC Financial Group
EBC Financial Group (EBC) ถูกก่อตั้งขึ้นในย่านการเงินที่มีชื่อเสียงของ London โดยมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการที่ครบวงจร ซึ่งรวมถึงนายหน้าทางการเงิน การจัดการสินทรัพย์ และโซลูชันการลงทุนที่ครอบคลุม EBC ให้ความสำคัญต่อลูกค้าที่หลากหลายทั้งนักลงทุนรายย่อย ระดับอาชีพ และสถาบันทั่วโลก โดยมีสำนักงานที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางทางการเงินที่โดดเด่น เช่น London, Sydney, Hong Kong, Tokyo, Singapore, Cayman Islands, Bangkok, Limassol และอื่น ๆ อีกมากมาย

EBC ได้รับการชมเชยจากรางวัลมากมาย จึงมีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมและกฎระเบียบสากลในระดับสูงสุด EBC Financial Group (UK) Limited มีการกำกับดูแลโดย Financial Conduct Authority (FCA) ของ UK, EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd มีการกำกับดูแลโดย Australia’s Securities and Investments Commission (ASIC) และ EBC Financial Group (Cayman) Limited มีการกำกับดูแลโดย Cayman Islands Monetary Authority (CIMA)

ร่วมมือกันเพื่อองค์กรการกุศล: EBC Financial Group ในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ปี 2024

ผู้สนับสนุนจาก EBC Financial Group ยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สนับสนุนจากทั่วโลกในการประชุมสุดยอดผู้นำ United to Beat Malaria ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการกำจัดโรคมาลาเรีย และส่งเสริมความเท่าเทียมด้านสุขภาพทั่วโลก

หัวใจสำคัญของ EBC Group คือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งมากกว่า 30 ปีในสถาบันการเงินรายใหญ่ โดยได้ดำเนินการผ่านวงจรเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเชี่ยวชาญตั้งแต่วิกฤตพลาซาแอคคอร์ดจนถึงวิกฤตสวิสฟรังก์ในปี 2015 EBC ส่งเสริมวัฒนธรรมความซื่อสัตย์ ความเคารพ และความปลอดภัยของสินทรัพย์ของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าการมีส่วนร่วมของนักลงทุนทุกคนจะได้รับการปฏิบัติด้วยความจริงจังสูงสุดตามที่สมควรได้รับ

https://www.ebc.com/

เกี่ยวกับ United to Beat Malaria ของ UN Foundation
UN Foundation เป็นองค์กรการกุศลอิสระที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อทำงานอย่างใกล้ชิดกับ United Nations เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ สร้างความคิดริเริ่มทั่วทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาในวงกว้าง และขับเคลื่อนความก้าวหน้าระดับโลก เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.unfoundation.org

แคมเปญ United to Beat Malaria ของ UN Foundation รวบรวมพันธมิตรและผู้สนับสนุนที่สำคัญและหลากหลายเพื่อดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อกำจัดโรคมาลาเรียและสร้างโลกที่มีสุขภาพดีขึ้นและเท่าเทียมกันมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2006 United to Beat Malaria ได้ทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมและระดมประชาชนทั่วทั้ง U.S. และทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ระดมทุนและความคิดเห็น แคมเปญนี้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศที่มีการแพร่ระบาดเพื่อส่งทรัพยากรที่ช่วยชีวิตเพื่อปกป้องประชากรชายขอบและกลุ่มเปราะบางที่สุด จากการสนับสนุนความเป็นผู้นำ เจตจำนงทางการเมือง และทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นจาก U.S. และที่อื่น ๆ ตลอดจนเครื่องมือและกลยุทธ์ที่เป็นนวัตกรรมแบบองค์รวมเพิ่มมากขึ้น เราจึงสามารถเป็นคนรุ่นที่กำจัดโรคมาลาเรียได้ตลอดไป เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.beatmalaria.org

ติดต่อด้านสื่อ:
Douglas Chew
douglas.chew@ebc.com

สามารถดูรูปภาพประกอบในประกาศนี้ได้ที่

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/1c08cdbd-b10d-44ef-aaf6-f0485748b100/th

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/96d5b585-35c9-4d74-b552-11f682d457b9/th

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/714f58ca-2cdc-4c4c-ab91-0f2dbfad927e/th

https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/9f2d5649-93d0-4619-bb12-0b4f422bcdd0/th

GlobeNewswire Distribution ID 9091770

Duck Creek เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด Duck Creek ประจำปีเพื่อสร้างความสัมพันธ์ การเป็นส่วนหนึ่ง และชุมชน

โคลัมเบีย เซาท์แคโรไลนา, April 18, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — วันนี้ Duck Creek Technologies ผู้ให้บริการโซลูชันอัจฉริยะที่กำหนดอนาคตของการประกันวินาศภัย (property and casualty หรือ P&C) และการประกันภัยทั่วไป ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด One Duck Creek ในเมืองโคลัมเบีย เซาท์แคโรไลนา โดยได้นำพาพนักงานจากทั่วโลกมารวมตัวกัน ผู้เข้าร่วมได้รับการยอมรับจากบทบาทของตนในสภาและโครงการต่าง ๆ มากมายที่ช่วยให้ Duck Creek สร้างวัฒนธรรมแห่งความเป็นเลิศด้านการประกันภัยและเทคโนโลยีกลุ่มบุคคลที่หลากหลายจะประชุมกันในอีกสองวันข้างหน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของปีที่ผ่านมา และวางแผนสำหรับอนาคตเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลของ Duck Creek ต่อไป Duck Creek พยายามที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมของการเป็นส่วนหนึ่งและความเคารพ โดยที่ทุกเสียงจะได้รับการรับฟังและเห็นคุณค่า

“ในฐานะบริษัทระดับโลก เราตระหนักถึงความสำคัญของการมีพนักงานที่หลากหลายและไม่แบ่งแยก ซึ่งสะท้อนถึงชุมชนและลูกค้าที่เราให้บริการ” Amy Bayer ผู้อำนวยการระดับโลกด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก การมีส่วนร่วมและวัฒนธรรมของ Duck Creek กล่าว “เราเชื่อว่าโปรแกรมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกของเรามีความจำเป็นสำหรับพนักงานของเรา และยังเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม ทำงานร่วมกัน และส่งมอบโซลูชันที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าของเรา การประชุมสุดยอด One Duck Creek เป็นโอกาสอันดีที่จะเฉลิมฉลองความสำเร็จของเรา แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกันเพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมต่อไป”

การประชุมสุดยอดนี้เริ่มต้นโดย Mike Jackowski ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Duck Creek Technologies Jackowski จะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมค่านิยมของบริษัทที่แข็งแกร่ง ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความหลากหลาย ความเท่าเทียม การไม่แบ่งแยก และการเป็นส่วนหนึ่ง (DEI&B) และประสบการณ์เชิงบวกของพนักงาน การประชุมสุดยอดนี้ยังมีวิทยากรหลักที่ช่วยให้พนักงานสามารถเชื่อมโยงและเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ทำงานและวัฒนธรรมที่ประสบความสำเร็จอื่น ๆ ได้

“เราภูมิใจที่ได้รับทราบและเฉลิมฉลองภูมิหลัง แนวคิด และประสบการณ์ที่แตกต่างกันที่พนักงานของเรานำมาสู่ Duck Creek” Courtney Townsend ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Duck Creek Technologies กล่าว “การดูแลสภาพแวดล้อมของการเป็นส่วนหนึ่งและการไม่แบ่งแยกเป็นรากฐานของประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของพนักงาน และแหล่งที่มาของความได้เปรียบทางการแข่งขันและนวัตกรรม สถานที่ทำงานระดับโลกที่มีความยืดหยุ่นเป็นอันดับแรกช่วยให้เราสามารถดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถที่ดีที่สุดได้ และช่วยให้พนักงานของเราทำงานในรูปแบบที่เหมาะสมกับความชอบและความต้องการของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม”

ไฮไลต์ประการหนึ่งของการประชุมสุดยอดประจำปีนี้คือกิจกรรมการสร้างผลกระทบทางสังคม ในปีนี้ Duck Creek ได้ร่วมมือกับองค์กรการกุศล Ronald McDonald House ในโคลัมเบีย ผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจะสนับสนุนโครงการ Pack-a-Smile โดยมอบอาหารกลางวันแบบถุงที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้กับสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดของเด็กที่ได้รับการดูแลจากโรงพยาบาลในท้องถิ่น การมอบอาหารกลางวันนี้ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวไม่ต้องวางมือจากการดูแลหรือกังวลว่าอาหารมื้อต่อไปของพวกเขาจะมาจากไหน เมื่อใด หรือที่ไหน

เกี่ยวกับ Duck Creek Technologies
Duck Creek Technologies คือผู้ให้บริการโซลูชันอัจฉริยะที่กำหนดอนาคตของการประกันวินาศภัย (property and casualty หรือ P&C) และอุตสาหกรรมประกันภัยทั่วไป เราเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สร้างระบบประกันภัยสมัยใหม่ ซึ่งช่วยให้อุตสาหกรรมใช้ประโยชน์จากพลังของคลาวด์เพื่อการดำเนินการที่คล่องตัว ชาญฉลาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความถูกต้อง วัตถุประสงค์ และความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญของ Duck Creek และเราเชื่อว่าการประกันภัยควรมีไว้เพื่อบุคคลและธุรกิจในเวลา สถานที่ และเมื่อถึงเหตุที่พวกเขาต้องการมากที่สุด โซลูชันชั้นนำของตลาดของเรามีจำหน่ายแบบแยกเดี่ยวหรือเป็น ชุดเต็มและทั้งหมดมีจำหน่ายผ่านทาง Duck Creek OnDemand โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.duckcreek.com ติดตาม Duck Creek บนช่องทางโซเชียลของเราเพื่อรับข้อมูลล่าสุดได้ผ่านทาง – LinkedIn และ X

ติดต่อด้านสื่อ:
Dennis Dougherty
dennis.dougherty@duckcreek.com

GlobeNewswire Distribution ID 9091740

Lantronix เปิดตัว Edge Compute Tracker FOX4 และ Bolero 43 ใหม่ ซึ่งเป็นการขยายตระกูลผลิตภัณฑ์เกตเวย์เทเลเมติกส์ที่ได้รับรางวัล

โซลูชันใหม่ของ Lantronix ตั้งเป้าไปที่ตลาดเทเลเมติกส์ที่มีการเติบโตสูง ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570

เออร์ไวน์ แคลิฟอร์เนีย, April 17, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — ในวันนี้ Lantronix Inc. (NASDAQ: LTRX) ผู้ให้บริการโซลูชันอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ด้านการประมวลผลและการเชื่อมต่อระดับโลก ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่เกตเวย์เทเลเมติกส์ Edge Compute Tracker FOX4 และ Bolero 43 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อการจัดการสินทรัพย์และกลุ่มยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์ทั้งสองได้รับการกำหนดค่าล่วงหน้าด้วยแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Edge IoT Percepxion™ ของ Lantronix ซึ่งมอบการจัดเตรียมและการจัดการอุปกรณ์ IoT ที่ครอบคลุมและปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสองได้รับการจัดแสดงในบูธของ Lantronix ที่งาน Embedded World 2024 (ฮอลล์ 3 บูธ 356) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9–11 เมษายน 2567 ในเมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี และงาน ISC West 2024 (บูธ 7117) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 10–12 เมษายน 2567 ในลาสเวกัส

Ursula Hess ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Quantum Aviation ซึ่งเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์เทเลเมติกส์ของ Lantronix กล่าวว่า “การใช้เกตเวย์เทเลเมติกส์ซีรีส์ FOX ของ Lantronix ทำให้เราสามารถป้อนข้อมูลที่เชื่อถือได้ไปยังโซลูชันซอฟต์แวร์บนคลาวด์ของเราแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าด้านการบินของเราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญเพื่อการมองเห็นและการดำเนินการแบบเรียลไทม์ รวมถึงการวิเคราะห์ในระยะยาวด้วยเช่นกัน”

จากข้อมูลของ Berg Insight การจัดส่งอุปกรณ์เทเลเมติกส์หลังการขายทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นโดยมีอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ที่ 10.5 เปอร์เซ็นต์ในอีกห้าปีข้างหน้า โดยจำนวนที่จัดส่งจะถึง 77.6 ล้านเครื่องในปี 2570 และมีการคาดว่ามูลค่าตลาดรวมจะสูงถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570 ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Lantronix มุ่งเป้าไปที่ตลาดนี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตเหล่านี้

“อุปกรณ์เทเลเมติกส์ใหม่ของเราเป็นแพ็กเกจที่สมบูรณ์แบบที่ผสานการเชื่อมต่อและการจัดการอุปกรณ์คลาวด์เข้ากับฮาร์ดแวร์ที่ได้รับรางวัล” Jacques Issa รองประธานฝ่ายการตลาดของ Lantronix กล่าว “Lantronix มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบผสานรวม ซึ่งความสะดวกในการใช้งานในด้านการปรับแต่ง การเริ่มใช้งาน และการจัดเตรียมจากระยะไกลเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง”

Edge Compute Tracker FOX4

การอัปเกรดล่าสุดในซีรีส์ FOX ของ Lantronix คือ Edge Compute Tracker FOX4 โดยมอบการผสานรวมเทคโนโลยีเซลลูลาร์และ GNSS ได้อย่างราบรื่น ซึ่งขณะนี้ได้มีการเสริมประสิทธิภาพด้วยการเชื่อมต่อ BLE และ Wi-Fi® ควบคู่ไปกับคุณสมบัติความปลอดภัยขั้นสูง FOX4 ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อความคล่องตัว และการออกแบบของผลิตภัณฑ์ทำออกมาให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่ศูนย์อุตสาหกรรมไปจนถึงภูมิทัศน์ในเมือง FOX 4 ยังสามารถรองรับเสาอากาศทั้งภายในและภายนอกได้อีกด้วย

ด้วยการสนับสนุนที่ทรงพลังสำหรับสคริปต์ PFAL, LUA, MQTT, Azure และ REST API ทำให้ Tracker ซีรีส์ FOX4 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของผู้ใช้สามารถสื่อสารกับแพลตฟอร์มเทเลเมติกส์แทบทุกชนิดได้อย่างราบรื่น อีกทั้งลดเวลาในการพัฒนาและเร่งเส้นทางออกสู่ตลาด

Edge Compute Tracker Bolero 43

Edge Compute Tracker Bolero 43 เป็นเลิศในด้านการจัดการสินทรัพย์และยานพาหนะ และแอปพลิเคชัน IoT เชิงอุตสาหกรรม เช่น การผลิตและระบบอัตโนมัติ Bolero 43 เป็นอนุพันธ์ของซีรีส์ FOX4 โดยผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศเดียวกันและใช้ภาษาการเขียนโปรแกรมเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง Bolero 43 มีระดับ IP68 และการออกแบบที่แข็งแรงเพื่อความทนทาน ขณะนี้มีจำหน่ายทั่วโลกแล้ว

ทั้ง Edge Compute Tracker FOX4 และ Bolero 43 ต่างก็ให้ความสามารถในการปรับแต่งซึ่งได้รับการอำนวยความสะดวกด้วยเครื่องมือ Workbench ที่ใช้งานง่าย จึงช่วยให้ปรับแต่งได้ง่ายตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพไปจนถึงการรวมฟังก์ชันการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์

เวลาทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกขัดจังหวะด้วยซิมการ์ดบริการการเชื่อมต่อจาก Lantronix

เกตเวย์เทเลเมติกส์ซีรีส์ FOX4 และ Bolero 43 มาพร้อมกับซิมการ์ดบริการเชื่อมต่อที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าของ Lantronix ที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ด้วยตัวเลือกผู้ให้บริการที่หลากหลาย จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกผู้ให้บริการเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งรวมถึงผู้นำในอุตสาหกรรม เช่น Verizon, AT&T และ T-Mobile ในอเมริกาเหนือ รวมถึงผู้ให้บริการหลายรายในภูมิภาคยุโรปและเอเชียแปซิฟิก

บริการ Percepxion สำหรับการจัดการวงจรการใช้งานอุปกรณ์ IoT ของ Lantronix

แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Edge IoT ของ Percepxion ให้บริการด้วยการมอบการจัดการอุปกรณ์ที่ครอบคลุมผ่านแดชบอร์ดแบบกระจกบานเดียวที่ใช้งานง่าย Percepxion ปรับขนาดการใช้งาน Edge IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงเกตเวย์เทเลเมติกส์ ตั้งแต่การติดตั้งระดับภูมิภาคไปจนถึงระดับโลก บริการนี้จะวางตำแหน่งทางตลาดของ Lantronix เพื่อมุ่งเป้าหมายไปยังการเติบโตของรายได้ประจำปี (ARR) ในปีที่กำลังจะมาถึง

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Percepxion และตรวจสอบข้อเสนอทดลองใช้ฟรี 60 วันที่นี่

เกี่ยวกับ Lantronix

Lantronix Inc. คือผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ด้านการประมวลผลและการเชื่อมต่อที่กำหนดเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ซึ่งรวมถึงเมือง ยานยนต์ และองค์กรอัจฉริยะ ผลิตภัณฑ์และบริการของ Lantronix ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ประสบความสำเร็จในตลาด IoT ที่กำลังเติบโตโดยนำเสนอโซลูชันที่ปรับแต่งได้ซึ่งจัดการกับ IoT Stack ในแต่ละชั้น โซลูชันระดับแนวหน้าของ Lantronix ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานสถานีย่อยอัจฉริยะ ระบบสาระบันเทิง และกล้องวงจรปิด ซึ่งเสริมด้วยการจัดการนอกวงขั้นสูง (OOB) สำหรับคลาวด์และการประมวลผล Edge

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Lantronix

คำชี้แจง “Safe Harbor” ภายใต้พระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์เอกชนปี 2538: ข้อความใด ๆ ที่ระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ซึ่งไม่ได้มีลักษณะเป็นประวัติการณ์และเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความที่เกี่ยวข้องกับโซลูชัน เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ของเรา เช่นเดียวกับ FOX4, Bolero 43 และ Percepxion และความคาดหวังเกี่ยวกับการบริหารจัดการของเราและการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของเรา ข้อความเชิงคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตนี้อ้างอิงจากการคาดการณ์ในปัจจุบันของเราและอาจอยู่ภายใต้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจก่อให้เกิดผลประกอบการที่แท้จริงของเรา ธุรกิจในอนาคต สถานะทางการเงินหรือผลการดำเนินงานที่แตกต่างอย่างมากจากผลประกอบการในอดีตของเรา คำสั่งที่มีอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้หรือที่กล่าวโดยชัดแจ้งหรือโดยนัยในข้อความเชิงคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตใด ๆ ที่ปรากฏอยู่ในข่าวเผยแพร่นี้ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและทั่วโลกที่เป็นลบหรือแย่ลง หรือความไม่แน่นอนของตลาดต่อธุรกิจของเรา รวมถึงผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อโดยลูกค้าของเรา ความสามารถของเราในการบรรเทาการหยุดชะงักใด ๆ ในห่วงโซ่อุปทานของเรา ของซัพพลายเออร์ และของผู้ขาย อันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 หรือการระบาดอื่น ๆ สงครามและความตึงเครียดล่าสุดในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง หรือปัจจัยอื่น ๆ การตอบสนองและผลกระทบของวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขในอนาคต ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย ข้อบังคับ และอัตราภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ และต่างประเทศ ความสามารถของเราในการใช้กลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการหรือรวมบริษัทที่ได้มา ความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการปกป้องสิทธิบัตรและกรรมสิทธิ์อื่น ๆ ระดับหนี้ของเรา ความสามารถของเราในการชำระหนี้ของเรา และข้อจำกัดในสัญญาหนี้ของเรา และปัจจัยเพิ่มเติมใด ๆ ที่รวมอยู่ในรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“SEC”) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 รวมถึงในส่วนหัวข้อ “ ปัจจัยความเสี่ยง” ในข้อ 1A ของส่วนที่ 1 ของรายงานดังกล่าว ในรายงานรายไตรมาสของเราในแบบ Form 10-Q สำหรับไตรมาสบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งยื่นต่อ SEC เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 รวมถึงในส่วนชื่อ “ปัจจัยความเสี่ยง” ในข้อ 1A ของส่วนที่ 2 ของรายงานดังกล่าว รวมทั้งในเอกสารอื่น ๆ ที่เรายื่นต่อ SEC อาจมีการระบุปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมเป็นครั้งคราวในเอกสารที่เรายื่นในอนาคต ข้อความเชิงคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตที่รวมอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้จะกล่าวถึง ณ วันที่ในที่นี้ และเราไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ในการปรับปรุงข้อความเชิงคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้เพื่อสะท้อนเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ตามมา

© 2024 Lantronix, Inc. สงวนลิขสิทธิ์ Lantronix เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน เครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าอื่น ๆ เป็นของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อด้านสื่อ Lantronix:
Gail Kathryn Miller
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและ
การสื่อสารขององค์กร
media@lantronix.com
949-212-0960

ข้อมูลติดต่อนักวิเคราะห์และนักลงทุน Lantronix:
Jeremy Whitaker
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน
investor@lantronix.com
949-450-7241

GlobeNewswire Distribution ID 9091050

TokenEx และ IXOPAY ควบรวมกิจการกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ตัวประมวลผลการชำระเงินหลายตัว

แพลตฟอร์มเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินสำหรับธุรกิจการค้าทั่วโลกได้นำเสนอการเปลี่ยนสินทรัพย์ในหลากหลายช่องทางให้อยู่ในรูปแบบโทเคน การจัดระบบการชำระเงิน และการจัดการวงจรชีวิตของบัตร

ทัลซา โอคลาโฮมา และเวียนนา ออสเตรีย, April 17, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — TokenEx ผู้ให้บริการโทเคนระบบคลาวด์ชั้นนำ และ IXOPAY ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการการชำระเงินอิสระชั้นนำ วันนี้จะประกาศข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการควบรวมกิจการ เพื่อสร้างผู้นำใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินระดับโลก บริษัทที่ควบรวมกิจการจะมีชื่อว่า IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx และ Marc Olesen จะเป็นผู้นำองค์กรที่ควบรวมกิจการในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการอนุญาตและค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนที่ลดลงสำหรับผู้ค้า พร้อมด้วยข้อมูลการชำระเงินที่ปลอดภัยที่ได้รับการรับรองโดย PCI

การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นการรวบรวมจุดแข็งในความเชี่ยวชาญของ TokenEx ในด้านโทเคนข้อมูลการชำระเงิน และการจัดการการชำระเงินระดับโลกของ IXOPAY รวมถึงความสามารถในการกำหนดเส้นทางธุรกรรมและการกระทบยอด

“การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมการชำระเงิน” Marc Olesen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว “ด้วยการผนึกกำลังกัน IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx จึงมีสถานะที่โดดเด่นในการช่วยผู้ค้าพัฒนากลยุทธ์การชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ตัวประมวลผลการชำระเงินหลายตัว เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ทั้งในด้านยอดขายและรายได้สุทธิ”

การควบรวมกิจการของ TokenEx กับ IXOPAY ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการชำระเงินไปสู่การสนับสนุนแนวทางการชำระเงินด้วยตัวประมวลผลการชำระเงินหลายตัว โดยส่งมอบแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบครบวงจรที่สมบูรณ์ ซึ่งรวมถึง:

  • การเปลี่ยนสินทรัพย์ในหลากหลายช่องทางให้อยู่ในรูปแบบโทเคน — Universal Tokens ช่วยให้ผู้ค้าสามารถใช้โทเคนการชำระเงินเดียวสำหรับการทำธุรกรรมทั้งแบบด้วยตนเองและแบบออนไลน์ และสำหรับตัวประมวลผลการชำระเงินทั้งหมด โทเคนดังกล่าวช่วยลดการจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินในหลายระบบ ลดความซับซ้อนของระบบ และให้ข้อมูลลูกค้าแบบครบวงจร
  • การจัดระบบการชำระเงิน — แพลตฟอร์มการจัดการการชำระเงินที่ปรับขนาดได้สูงสำหรับผู้ค้าได้มอบฟังก์ชันการกำหนดเส้นทางอัจฉริยะ การกระจาย และการจัดการความเสี่ยงที่ล้ำสมัย รวมถึงการกระทบยอดและการชำระบัญชีแบบรวมศูนย์ พร้อมด้วยการบูรณาการโดยใช้ปลั๊กอินของผู้รับชำระเงิน วิธีการชำระเงินทางเลือก และผู้ให้บริการการชำระเงินมากกว่า 200 ราย
  • การจัดการวงจรชีวิตของบัตร — ชุดความสามารถที่สมบูรณ์สำหรับการจัดการวงจรธุรกรรมทั้งหมดตามขนาด รวมถึงการอัปเดตบัตรที่หมดอายุ การใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของโทเคนเครือข่าย การกำหนดเส้นทางที่คล่องตัวด้วย BIN Lookup และการตรวจสอบธุรกรรมด้วย 3D Secure

“ด้วยการควบรวมกิจการกับ TokenEx เราไม่เพียงแต่นำความสามารถเฉพาะของเรามารวมกันเพื่อเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับผู้ค้าทั่วโลกเท่านั้น แต่เรายังสามารถใช้ความเชี่ยวชาญของทีมงาน TokenEx เพื่อให้บริการชั้นหนึ่งแก่ลูกค้าชาวยุโรปหลักของเราในตลาดสหรัฐอเมริกาอีกด้วย” Rene Siegl ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ IXOPAY กล่าว “สำหรับผู้ค้าที่ให้ความสำคัญกับความได้เปรียบทางการแข่งขันที่มาพร้อมกับการปฏิบัติต่อการชำระเงินด้วยการใช้กลยุทธ์นั้น IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx จะส่งมอบแพลตฟอร์มการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินแบบหลายช่องทางที่สมบูรณ์แบบด้วยโทเคนที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันและการกำหนดเส้นทางธุรกรรมอัจฉริยะ — ซึ่งทำให้ผู้ค้าสามารถควบคุมรายได้และความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อการเติบโตในการค้าระดับโลก” ทั้ง Rene Siegl ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และ Nathalie Siegl ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะยังคงทำงานอยู่กับ IXOPAY ซึ่งเป็นบริษัทของ TokenEx ในฐานะผู้บริหาร

เกี่ยวกับ TokenEx

TokenEx เป็นผู้ให้บริการโทเคนบนคลาวด์และการเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินที่มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือองค์กรอย่างปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนดในการประมวลผลและส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อน โซลูชันชั้นนำของอุตสาหกรรมสำหรับการปกป้องข้อมูลสามารถรักษาความปลอดภัยและลดความละเอียดอ่อนขององค์ประกอบข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อลดความเสี่ยง ปรับปรุงการดำเนินงาน และใช้งานกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญได้

เกี่ยวกับ IXOPAY

IXOPAY เป็นแพลตฟอร์มการจัดการการชำระเงินที่ดีที่สุดที่นำเสนอตัวเลือกการประมวลผลการชำระเงินระดับโลกที่ยืดหยุ่นและเป็นอิสระ IXOPAY นำเสนอการกำหนดเส้นทางธุรกรรมที่ชาญฉลาดด้วยการจัดการความเสี่ยงและการฉ้อโกงแบบกระจายที่ทันสมัย การกระทบยอดและการชำระบัญชีอัตโนมัติเต็มรูปแบบ การรายงานที่ครอบคลุมและการเข้าถึงผู้รับชำระเงิน ผู้ให้บริการการชำระเงิน และวิธีการชำระเงินทางเลือกหลายร้อยราย

ติดต่อด้านสื่อ:

Nicholas Mueller

nmueller@tokenex.com

510-289-2001

สามารถดูรูปประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/27147864-91b0-4683-aa19-d4c4690d323a

GlobeNewswire Distribution ID 9090807

Stevie® Awards ประกาศรายชื่อผู้ชนะรางวัล Stevie® Awards ประจำปีครั้งที่ 18 ด้านการขายและการบริการลูกค้า

แฟร์แฟกซ์ รัฐเวอร์จิเนีย, April 17, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — ผู้ชนะรางวัล Stevie® Awards ประจำปีครั้งที่ 18 ด้านการขายและการบริการลูกค้า ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นรางวัลด้านการบริการลูกค้าและรางวัลการขายอันดับต้น ๆ ของโลก ได้รับการเปิดเผยเมื่อคืนวันศุกร์ที่งานกาล่าในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้บริหารมากกว่า 400 รายจากทั่วโลกเข้าร่วม

สามารถดูรายชื่อผู้ชนะรางวัล Stevie ฉบับเต็มโดยแบ่งตามสาขาได้ที่ http://www.StevieAwards.com/Sales

องค์กรที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด 10 องค์กรในรางวัล Stevie Awards ด้านการขายและการบริการลูกค้าปี 2024 จะได้รับรางวัล Grand Stevie Award (“ซึ่งถือว่าดีที่สุดในรายการ”) ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อไม่สามารถสมัครชิงรางวัล Grand Stevie Awards ได้โดยตรง ผู้ชนะจะถูกกำหนดโดยระบบการให้คะแนนตามจำนวนรางวัลทั้งหมดที่ได้รับ เช่นเดียวกับการมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในสาขาที่เลือก

DP DHL ที่มีสาขาทั่วโลกได้รับรางวัลระดับ Gold 13 รางวัล ระดับ Silver 18 รางวัล และระดับ Bronze 14 รางวัลจาก Stevie Award เป็นองค์กรที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในปีนี้ โดยได้รับถ้วยรางวัล Grand Stevie Award ในระดับสูงสุด องค์กรต่อไปนี้จะได้รับถ้วยรางวัล Grand Stevie Award ในงาน Stevie Awards ประจำปี 2024 ด้านการขายและการบริการลูกค้า ในนามของตนเองและ/หรือลูกค้า โดยเรียงลำดับคะแนนจากมากไปน้อย มีการเสมอกันในอันดับที่เก้าระหว่าง Toco Warranty และ Purpol Marketing Limited

  1. DP DHL (ทั่วโลก) 96 คะแนน
  2. IBM (อาร์มองก์ รัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา) 64 คะแนน
  3. Support Services Group, Inc. (วาโก รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา) 49 คะแนน
  4. Allianz Services Pvt Ltd (ตริวันดรัม รัฐเกรละ อินเดีย) 39 คะแนน
  5. Sales Partnerships, Inc. (บรูมฟิลด์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา) 38.5 คะแนน
  6. UPMC Health Plan (พิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา) 31 คะแนน
  7. Blackhawk Network (เพลแซนตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา) 26 คะแนน
  8. VIZIO Inc. (เออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา) 22 คะแนน
  9. Toco Warranty (ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา) 19 คะแนน
    Purpol Marketing Limited (ชิปเพนแฮม สหราชอาณาจักร) 19 คะแนน

ผู้ชนะที่โดดเด่นรายอื่น ๆ ที่ได้รับรางวัล Gold Stevie Awards สามรางวัล ได้แก่ Alight Solutions (ลินคอล์นเชียร์ รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา) Optum (อีเดนแพรรี รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา) และ WNS (Holdings) Limited (เมืองมุมไบ อินเดีย)

องค์กรที่ได้รับรางวัล Stevie Awards ระดับ Gold, Silver หรือ Bronze รวมกันตั้งแต่ห้ารางวัลขึ้นไป ได้แก่ TransPerfect Translations นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (แปดรางวัล) VMware (Broadcom) ปาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (เจ็ดรางวัล) Intuit โทรอนโต แคนาดา (เจ็ดรางวัล) Avetta ลีหิ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา (เจ็ดรางวัล) SAP ทั่วโลก (เจ็ดรางวัล) ValueSelling Associates Inc. คาร์ลสแบด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (หกรางวัล) Element Electronics วินน์สโบโร รัฐเอสซี สหรัฐอเมริกา (หกรางวัล) Voya Financial นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (หกรางวัล) CivicPlus แมนฮัตตัน รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) Capital Rx นิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) Datasite มินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) Inspiro เมืองมาคาติ ฟิลิปปินส์ (ห้ารางวัล) Loveholidays ลอนดอน สหราชอาณาจักร (ห้ารางวัล) OpenGov ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล) QNB Finansbank อิสตันบูล ตุรกี (ห้ารางวัล) และ Qualitest Group บริดจ์วอเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา (ห้ารางวัล)

การเสนอชื่อเข้าชิงมากกว่า 2,300 รายชื่อจากองค์กรทุกขนาดและในแทบทุกอุตสาหกรรมได้รับการประเมินในการแข่งขันในปีนี้ ผู้ชนะได้รับการคัดเลือกจากคะแนนเฉลี่ยที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 200 คนทั่วโลก ซึ่งเป็นคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีเจ็ดสาขา

ผู้เข้าร่วมชิงรางวัลจะได้รับการพิจารณารางวัลด้านบริการลูกค้าและศูนย์การติดต่อกว่า 60 ประเภท รวมถึง ศูนย์การติดต่อยอดเยี่ยมแห่งปี รางวัลนวัตกรรมด้านการบริการลูกค้า และแผนกบริการลูกค้ายอดเยี่ยมแห่งปี ทั้งยังมีรางวัลด้านการพัฒนาธุรกิจและการขายกว่า 60 ประเภท ตั้งแต่ผู้บริหารการขายยอดเยี่ยมแห่งปี ไปจนถึงการฝึกปฏิบัติด้านการฝึกอบรมการขายแห่งปี ความสำเร็จด้านระบบอัตโนมัติการขาย และประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การยอมรับผลิตภัณฑ์ บริการ และผู้ให้บริการโซลูชันใหม่ ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้ชนะในสาขาพิเศษหนึ่งรายการ ได้แก่ รางวัลด้านการขายในสาขาจริยธรรมในการเป็นพันธมิตรด้านการขาย ยังได้รับการประกาศและยกย่องในพิธีวันที่ 12 เมษายนด้วย รางวัลนี้ยกย่ององค์กรที่มีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และมีความสำเร็จในการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานจริยธรรมสูงสุดในอุตสาหกรรมการขาย Integrity Solutions จากแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ชนะระดับ Gold Stevie ในสาขานี้ ผู้ชนะระดับ Silver ได้แก่ Better Way Health (เคนเนซอร์ รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา) Stateside Affairs (มานาสควอน รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา) และ Desiderate (นิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย) ผู้ชนะรางวัล Stevie ระดับ Bronze ได้แก่ Alright Retiree Health Solutions (ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา) Belkins (โดเวอร์ รัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา) Rootstack (ปานามา) Shell International Aviation (มาคาติ ฟิลิปปินส์) TCN (เซนต์จอร์จ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา) และ Yuksekbilgili Egitim & Danismanli (อิสตันบูล ตุรกี)

ผู้ชนะรางวัล People’s Choice Stevie® Awards ประจำปี 2024 ด้านการบริการลูกค้าที่เป็นที่ชื่นชอบซึ่งได้มีการประกาศเมื่อวันที่ 4 เมษายนยังได้รับการยกย่องในงานกาล่าที่มีการมอบรางวัลวันที่ 12 เมษายนอีกด้วย ผู้ชนะรางวัล People’s Choice Stevie Award จะได้รับรางวัล People’s Choice Stevie Award อันเป็นที่ต้องการ ซึ่งตัดสินโดยการโหวตจากสาธารณะชนทั่วโลก

การนำเสนอได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทาง Vimeo และ สามารถรับชมออนไลน์ได้

การเสนอชื่อเข้าชิง Stevie Awards ด้านการขายและการบริการลูกค้าประจำปี 2025 จะได้รับการยอมรับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ สามารถขอรับชุดเครื่องมือการเข้าร่วมได้ที่ http://www.StevieAwards.com/Sales

เกี่ยวกับ Stevie Awards
Stevie Awards จัดขึ้นในเก้าโครงการ ได้แก่ The Asia-Pacific Stevie Awards, The German Stevie Awards, The Middle East & North Africa Stevie Awards, The American Business Awards®, The International Business Awards®, The Stevie Awards for Great Employers, The Stevie Awards for Women in Business, The Stevie Awards for Sales & Customer Service และ Stevie Awards for Technology Excellence ซึ่งเป็นรางวัลใหม่ มีผู้ส่งรายชื่อเข้าชิงรางวัลการแข่งขัน Stevie Awards มากกว่า 12,000 รายในทุกปีจากองค์กรต่าง ๆ ในกว่า 70 ประเทศ รางวัล Stevie เป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งผลงานอันโดดเด่นในที่ทำงานจากทั่วโลกเพื่อแสดงเกียรติประวัติต่อองค์กรทุกประเภทและขนาดรวมถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังองค์กรเหล่านั้นด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัล Stevie Awards ได้ที่ http://www.StevieAwards.com

ผู้สนับสนุนรางวัล Stevie Awards ประจำปีครั้งที่ 18 ด้านการขายและการบริการลูกค้า ได้แก่ Sales Partnerships, Inc., Support Services Group, Inc. และ ValueSelling Associates, Inc.

ติดต่อด้านสื่อ:
Nina Moore
+1 (703) 547-8389
Nina@StevieAwards.com

สามารถดูรูปประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/e0520bf9-f814-4189-9d3f-b3a1f8a31877

GlobeNewswire Distribution ID 9090902

OSL ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรการแลกเปลี่ยนรายแรกและผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อยสำหรับการเปิดตัวกองทุน Spot BTC/ETH ETF ของ China AMC ในฮ่องกง

ฮ่องกง, April 16, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — OSL Digital Securities แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตชั้นนำและองค์กรหลักของ OSL Group (863.HK) ได้รับเลือกจากบริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำในฮ่องกง China Asset Management (ฮ่องกง) (“ChinaAMC (HK)”) ให้เป็นพันธมิตรการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือนรายแรกและผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกในการอนุมัติในหลักการและเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin/Ethereum ETF ในฮ่องกงเป็นครั้งแรก ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านภูมิทัศน์ทางการเงินของภูมิภาค และนับเป็นการประกาศถึงการลงทุนบทใหม่ในสินทรัพย์ดิจิทัล

เนื่องจากมีตลาดที่รองรับกองทุน Spot BTC/ETH ETF เพียงไม่กี่แห่งทั่วโลก โครงการริเริ่มของฮ่องกงจึงเป็นตลาดใหม่เคียงบ่าเคียงไหล่กับภูมิภาคบุกเบิกต่างๆ เช่น แคนาดา เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสะท้อนจากประสบการณ์ในสหรัฐอเมริกา ที่ Spot Bitcoin ETF สามารถรวบรวมได้กว่า 12.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น (ที่มา: SosoValue ณ วันที่ 12 เมษายน 2024) ตลาดฮ่องกงนั้นเปี่ยมไปด้วยศักยภาพและเป็นที่น่าดึงดูดใจของตลาด

ในความร่วมมือครั้งนี้ OSL ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นอย่างดีเพื่อให้แน่ใจว่าจะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย ซึ่งสำคัญต่อการดำเนินงานของ ETF ที่จะจัดการสินทรัพย์อ้างอิงอย่างรอบคอบ ในฐานะผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อย OSL จะให้การรักษาความปลอดภัยระดับตัวอย่างที่เป็นไปตามมาตรฐานด้านกฎระเบียบ โดยจะมอบบริการการดูแลชั้นนำซึ่งรักษาความสมบูรณ์และความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่ได้รับการจัดการ

“เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับทีมงานมากความสามารถจาก China AMC นี่คือหลักชัยสำคัญในภาพรวมของ ETF” Patrick Pan ประธานคณะกรรมการและ CEO ของ OSL กล่าว “การได้รับเลือกให้เป็นพันธมิตรการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือนรายแรกและผู้รับฝากทรัพย์สินรายย่อย ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นว่า OSL ได้รับความนับถืออย่างสูงเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาการลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงให้ก้าวหน้า ซึ่งสะท้อนแนวโน้มความเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในตลาดสหรัฐอเมริกาอีกด้วย”

ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียงแห่งเดียวของฮ่องกงที่อุทิศตนให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ในตลาดของ OSL Group (863.HK) นั้นเสริมความแข็งแกร่งด้วยการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ครอบคลุม ประสบการณ์การดำเนินงานที่กว้างขวาง และชื่อเสียงในตลาดที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทเน้นย้ำความสำเร็จนี้ด้วยการผ่านการตรวจสอบ SOC 2 Type 2 เมื่อรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้ากับโมเดล B2B2C ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ OSL และบริการระดับสถาบัน ทำให้มั่นใจได้ว่า OSL จะไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงอีกด้วย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OSL กรุณาเยี่ยมชม osl.com

ติดต่อประชาสัมพันธ์
media@osl.com

GlobeNewswire Distribution ID 9090178

OSL ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์เสมือน รวมถึงเป็นตัวแทนผู้ดูแลทรัพย์สินรายแรกให้กับ Harvest Global ในการเปิดตัวการซื้อขาย Bitcoin และ Ethereum ETF แบบสปอตเป็นครั้งแรกในฮ่องกง

ฮ่องกง, April 16, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — OSL Digital Securities แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำที่ได้รับใบอนุญาต และเป็นองค์กรหลักของ OSL Group (863.HK) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์เสมือน และเป็นตัวแทนผู้ดูแลทรัพย์สินรายแรกให้กับ Harvest Global ในการซื้อขาย ETF BTC/ETH แบบสปอตเป็นครั้งแรก ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัติหลักการด้านการอนุญาตให้เสนอขายต่อสาธารณะในฮ่องกง ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญในภาคส่วนการเงินของภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

การซื้อขาย BTC/ETH ETF แบบสปอตได้รับการคาดหวังเป็นอย่างมากจากทั่วโลก และยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงในการทยอยนำกองทุนจำนวนมหาศาลและเหล่านักลงทุนเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัล กลไกการเปิดเผยข้อมูลโดยตรงของ ETF เหล่านี้ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin ง่ายยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสภาพคล่องของตลาด

ในความร่วมมือนี้ OSL ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย ซึ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานของ ETF ที่จะทำให้สามารถจัดการสินทรัพย์อ้างอิงด้วยความแม่นยำและน่าเชื่อถือ ในฐานะตัวแทนผู้ดูแลทรัพย์สิน OSL รับประกันความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบในระดับสูงสุด ด้วยการนำเสนอบริการด้านการดูแลทรัพย์สินระดับสูง ที่รักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่เราบริหาร

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก และขอขอบคุณ Harvest Global ที่ได้เลือก OSL ให้ทำหน้าที่แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์เสมือน และพันธมิตรตัวแทนการดูแลทรัพย์สินเป็นรายแรก” คุณ Patrick Pan คณะกรรมการและประธานกรรมการบริหารของ OSL กล่าว “สิ่งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความไว้วางใจและความเชื่อมั่นที่มีต่อเรา แต่ยังทำให้ชื่อเสียงของ OSL ในฐานะองค์กรชั้นนำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของฮ่องกงมั่นคงอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับที่ผู้ออกหลักทรัพย์ชั้นนำในสหรัฐฯ เลือกแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงเช่น Coinbase”

ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียงแห่งเดียวของฮ่องกงที่อุทิศตนให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครบถ้วน ประสบการณ์การดำเนินงานที่กว้างขวาง และชื่อเสียงในตลาดที่แข็งแกร่งจะยิ่งทำให้ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของ OSL Group (863.HK) ในตลาดมั่นคงขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการตรวจสอบ SOC 2 ประเภทที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อปัจจัยเหล่านี้ผสมผสานเข้ากับโมเดล B2B2C ที่เป็นนวัตกรรมของ OSL และการให้บริการในระดับสถาบันแล้ว ยิ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่า OSL นั้นไม่เพียงแค่มีส่วนร่วมในตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงด้วย

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ OSL โปรดเยี่ยมชม osl.com

ติดต่อประชาสัมพันธ์:
media@osl.com

GlobeNewswire Distribution ID 9090171

การแก้ไข: EMGA จัดหาวงเงินตราสารหนี้มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ MFO KMF ในคาซัคสถาน

ลอนดอน, April 16, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Emerging Markets Global Advisory LLP (EMGA) แถลงข่าวว่าได้รับวงเงินตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ (Senior Debt Facility) มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก JICA (The Japan International Cooperation Agency)

Shalkar Zhusupov ประธานคณะกรรมการบริหารของ KMF กล่าวว่า “นับเป็นครั้งแรกที่ KMF ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ JICA ซึ่งมีเป้าหมายและพันธกิจที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายและพันธกิจของเราเอง เราต้องขอบคุณ EMGA และ JICA เป็นอย่างยิ่งที่ให้ความไว้วางใจและการสนับสนุน เงินทุนจาก JICA จะนำมาใช้เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่สนับสนุนวิสาหกิจรายย่อย และวิสาหกิจขนาดย่อม รวมไปถึงวิสาหกิจในพื้นที่ชนบท ซึ่งจะทำให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ และมีส่วนช่วยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของวิสาหกิจเหล่านั้น”

Sajeev Chakkalakal หัวหน้าส่วนงานการธนาคารเพื่อการลงทุนและกรรมการผู้จัดการของ EMGA กล่าวว่า “เราดีใจที่สามารถจัดหาวงเงินตราสารหนี้ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่นี้ให้กับ KMF ซึ่งเป็นลูกค้าของเรามาอย่างยาวนาน เรารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกับพวกเขาอีกครั้งในขณะที่พวกเขาสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะสถาบันการเงินรายย่อย (MFI) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และทำให้มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

Jeremy Dobson กรรมการผู้จัดการของ EMGA กล่าวเสริมว่า “การจัดหาเงินทุนครั้งใหม่นี้จะช่วยให้ KMF ส่งมอบได้ตามพันธกิจที่ระบุไว้ นั่นคือการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วทั้งคาซัคสถานอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาธุรกิจของพวกเขาโดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษที่ธุรกิจซึ่งมีผู้หญิงเป็นเจ้าของและธุรกิจในพื้นที่ชนบท”

MFO KMF เป็นหนึ่งในผู้นำของภาคธุรกิจการเงินรายย่อยในภูมิภาคเอเชียตอนกลาง บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความสัมพันธ์การเป็นพันธมิตรระยะยาวกับลูกค้า โดยอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเข้าใจ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน MFO “KMF” กระจายวงเงินกู้ให้แก่ลูกค้ารายบุคคลและแบบกลุ่มสำหรับกิจกรรมประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้: ธุรกิจ การค้า การทำไร่พืชและการเลี้ยงปศุสัตว์ การผลิตและการให้บริการ และการให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค

JICA: The Japan International Cooperation Agency เป็นองค์กรของรัฐบาลที่ส่งมอบความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการจำนวนมากให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น กฎบัตรขององค์กรคือการช่วยเหลือด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่กำลังพัฒนา และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ

Emerging Markets Global Advisory Limited (EMGA) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในลอนดอนและนิวยอร์ก ช่วยเหลือสถาบันการเงินและองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังมองหาตราสารหนี้ใหม่หรือเงินลงทุนในทุนเรือนหุ้น (Equity Capital) ทีมงานในหลากหลายประเทศของ EMGA ได้ผสานรวมประสบการณ์หลายสิบปีที่จำเป็นต่อการบรรลุข้อตกลงการทำธุรกรรมในนามของลูกค้าภายในตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจชายขอบของโลก รวมถึงประเทศคาซัคสถานที่ยังคงเป็นตลาดหลัก ด้วยประวัติผลงานที่ได้พิสูจน์แล้วในการสร้างสมทุนและการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ในตลอดทั้งวงจรเศรษฐกิจที่หลากหลาย EMGA ยังคงขยายการดำเนินงานทางพื้นที่ภูมิศาสตร์และการเสนอบริการต่าง ๆ ซึ่งทำให้อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในตลาดในฐานะหนึ่งในธนาคารเพื่อการลงทุนเฉพาะกลุ่มที่มุ่งเน้นตลาดเกิดใหม่ที่มีความโดดเด่นทางอุตสาหกรรม

รายละเอียดการติดต่อ
info@emergingmarketsglobaladvisory.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000934893

การเรียกร้องการปฏิรูปการเงินโลก เพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้และสภาพภูมิอากาศครั้งแรกของโลก – จดหมายจาก Project Everyone

Stephen Fry, Annie Lennox, Christiana Figueres, Forest Whitaker, David Miliband, Graça Machel, Helen Clark และ Paul Polman หนึ่งในบรรดาเหล่าผู้ลงนามมากกว่า 100 รายในจดหมายที่ส่งถึงผู้นำกลุ่ม G20

ลอนดอน, April 15, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — แปดสิบปีนับจากที่ International Monetary Fund และ World Bank ได้ก่อตั้งขึ้น โดย ณ เวลานี้ แนวร่วมของเหล่านักแสดง นักการเมือง ศิลปิน และนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำได้ส่งจดมายถึงเหล่าผู้นำ เศรษฐกิจที่สำคัญของโลก เพื่อเรียกร้องให้ยกระดับระบบการเงินโลกเพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้และสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

จดหมายดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาก่อนการประชุม World Bank และ IMF Spring Meetings ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ต่อยอดมาจากการเรียกร้องให้ปฏิรูปการคลังสาธารณะทั่วโลก ที่นำโดยนาย Mia Mottley นายกรัฐมนตรีแห่งบาร์เบโดส, นาย William Ruto ประธานาธิบดีเคนยา และนาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

จดหมายดังกล่าวเรียกร้องให้ประเทศที่ร่ำรวยเพิ่มการลงทุนในธนาคารเพื่อการพัฒนาแบบพหุภาคีเป็นสามเท่า ยุติหนี้สินสาหัส และดำเนินการให้ผู้ก่อมลพิษต้องชดใช้ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาก่อขึ้น

โดยเหล่าผู้ลงนาม ได้แก่ คุณ Mariana Mazzucato นักเศรษฐศาสตร์, Dr. Mo Ibrahim นักธุรกิจ, คุณ Dia Mirza นักแสดง, เหล่าอดีตนักการเมืองทั้งคุณ Rory Stewart , คุณ Joyce Banda, คุณ Heidemarie Wieczorek-Zeul และ Helle Thorning-Schmidt รวมถึงเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นคุณ Richard Curtis, คุณ Juliano Ribeiro Salgado และ คุณ KondZilla

“สถาบันการเงินโลกไร้ซึ่งอำนาจไปเสียแล้ว” ข้อความจากจดหมายกล่าว “โลกสั่นสะเทือนด้วยความขัดแย้ง ความไม่มั่นคงทางอาหาร การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นแล้ว ความหายนะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ปัญหาดังกล่าวยิ่งรุนแรงขึ้น เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนกำลังถูกคุกคาม มีคนจำนวนมากมาย มากจนเกินไปที่ต้องสัมผัสกับความขาดแคลน ความมัธยัสถ์ และความสิ้นหวัง”

Dr Joyce Banda อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมาลาวี: “ในฐานะผู้นำแห่งชาวแอฟริกา เราจำเป็นต้องลงทุนในด้านการฟื้นฟู การศึกษา สุขอนามัย และโภชนาการ แต่หนี้สินที่ไม่เป็นธรรมเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนำความทุกข์ทรมานมาสู่ประชาชนของเราอย่างมิอาจเอ่ยได้ ซึ่งเนื่องมาจากการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่เพาะปลูก จนนำไปสู่ความขาดแคลนอาหารอย่างต่อเนื่อง เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งทำให้วงจรปัญหานี้หมุนเวียนไปไม่สิ้นสุด วงจรนี้ต้องจบลง ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนแปลงการคลังสาธารณะทั่วโลก เพื่อปูทางไปสู่อนาคตที่มีความยุติธรรมและมั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”

David Miliband ประธานและ CEO ของ International Rescue Committee: “สภาพอากาศ ความขัดแย้ง และความยากจนมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ประเทศที่เปราะบางและได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งมากที่สุดในโลกมักเป็นประเทศที่มีความเปราะบางต่อสภาพอากาศมากที่สุด ดังนั้น เพื่อยุติความยากจนขั้นรุนแรงและเปิดโอกาสการพัฒนาอย่างยั่งยืน เหล่าผู้นำ G20 ควรสนับสนุนการปฏิรูปสถาปัตยกรรมทางการเงิน มอบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนผ่าน International Development Association ของ World Bank ให้มากขึ้น และทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมเพื่อให้มั่นใจว่างบประมาณนั้นจะไปถึงมือแหล่งที่จำเป็นที่สุด”

จดหมายดังกล่าวยังมี Save The Children, ONE Campaign, Oxfam, Project Everyone และ Christian Aid ร่วมลงนามด้วย โดยเรียกร้องให้เหล่าผู้นำของประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกคว้าโอกาสในการปฏิรูปนี้ไว้ โดยกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เหล่าสถาปนิกของ World Bank และ IMF ได้จารึกชื่อของตนในประวัติศาสตร์ นี่เป็นโอกาสของท่านที่จะทำให้คำมั่นสัญญาของพวกเขาเป็นจริงนั่นคือ การเปลี่ยนแปลงเครื่องมือเหล่านี้เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง รวมถึงดำเนินการให้เครื่องมือเหล่านี้ทำงานเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของเราอย่างแท้จริง”

  • เราจะเผยแพร่จดหมายฉบับดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน เวลา 00:01 ตามเวลา BST ที่นี่
  • ผู้ประสานงานสื่อ: zofia.tanaka@digacommunications.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000934628

MoneyHero Group เป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลการเงินส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์เป็นปีที่เจ็ดติดต่อกัน

งานประจำปีอันเป็นสัญลักษณ์ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 6 เมษายนโดย Seedly ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของบริษัทในสิงคโปร์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 5,000 ราย

วิทยากรที่โดดเด่น ได้แก่ : Dr. Tan See Leng รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์ และรัฐมนตรีคนที่สองด้านการค้าและอุตสาหกรรม คุณ Nelson Neo หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการวางแผนทางการเงินและหัวหน้าธนาคาร DBS และ POSB และบุคคลที่โดดท่านอื่น ๆ อีกเกือบ 70 รายจากแวดวงการเงิน การประกันภัย และภาครัฐของสิงคโปร์

MoneyHero ร่วมมือกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการประกันภัยรายใหญ่กว่า 35 แห่งในสิงคโปร์สำหรับเทศกาลปี 2567 ซึ่งรวมถึง CIMB Bank, Citibank, DBS Bank, Manulife, POSB Bank และ Singlife

Dr. Tan See Leng See Leng รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์และรัฐมนตรีคนที่สองด้านการค้าและอุตสาหกรรม (ซ้าย) กล่าวในเทศกาล Seedly Personal Finance Festival ประจำปี 2567

สิงคโปร์, April 12, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — MoneyHero Limited (NASDAQ: MNY) (“MoneyHero” หรือ “บริษัท”) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมและเปรียบเทียบด้านการเงินส่วนบุคคลและการประกันภัยดิจิทัลชั้นนำของตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศในวันนี้ถึงความสำเร็จของการจัดงานเทศกาล Seedly Personal Finance Festival (“PFF” หรือ “เทศกาล”) ประจำปีครั้งที่ 7 ของบริษัท

เทศกาลจัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวันที่ 6 เมษายน ที่ Marina Bay Sands Expo and Convention Center โดยงาน PFF ปี 2567 ได้ประสบความสำเร็จอีกครั้งด้วยการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและอิทธิพลของงานประเภทนี้ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ เทศกาลประจำปีซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2561 จัดขึ้นโดย Seedly ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของตลาดของ MoneyHero ที่สร้างชุมชนการเงินส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ สิ่งที่น่าประทับใจคือเทศกาล PFF ปี 2567 มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 คน โดยมีผู้นำทางธุรกิจ การเงิน และรัฐบาล 70 คนเป็นวิทยากร และมีองค์กรการเงินและการประกันภัยอันทรงเกียรติอีก 35 แห่งทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน

ในระหว่างงาน Seedly ยังได้เปิดตัวแอปใหม่ ShopHero by Seedly ซึ่งเป็นสุดยอดคู่หูแห่งการชอปปิง (Ultimate Shopping Companion) ซึ่งผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนทันทีเกี่ยวกับส่วนลด ปรับแต่งดีลได้ในแบบของคุณ และเพิ่มรางวัลให้สูงสุดด้วยบัตรเครดิตที่เหมาะสมที่สุด

หัวข้อสำคัญที่ครอบคลุมในช่วงเทศกาลปีนี้ ได้แก่:

  • ธีมเกี่ยวกับการลงทุนและแนวโน้มที่น่าจับตามอง
  • ข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงิน การบริหารความมั่งคั่ง และการตัดสินใจด้านประกันภัย
  • แนวทางในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และ
  • วิธีการรักษาสุขภาพทางการเงินของคุณ

หากต้องการดูสรุปวาระการประชุม PFF ปี 2567 ฉบับเต็ม โปรด คลิกที่นี่

Dr. Tan See Leng รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์ และรัฐมนตรีคนที่สองด้านการค้าและอุตสาหกรรมเป็นวิทยากรคนสำคัญ วิทยากรที่โดดเด่นท่านอื่น ๆ บางส่วนสำหรับเทศกาลปีนี้ ได้แก่1:

  • คุณ Raymond Tan หัวหน้าฝ่ายบริหารความมั่งคั่งและ Preferred Banking ธนาคาร CIMB
  • คุณ Rena Lee หัวหน้าฝ่ายขายการทำประกันภัยผ่านธนาคาร ธนาคาร Citibank Singapore
  • คุณ Wong Yan Jun รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (บริการ) CPF Board
  • คุณ Nelson Neo หัวหน้าที่ปรึกษาการวางแผนทางการเงิน และหัวหน้า ธนาคาร POSB และ DBS
  • คุณ Leah Ng ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันธุรกิจ Manulife Singapore
  • คุณ Rohith Murthy ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MoneyHero Group
  • คุณ Helen Shen หัวหน้ากลุ่มด้านสุขภาพทางการเงิน Singlife

หากต้องการดูรายชื่อวิทยากรฉบับเต็มสำหรับ PFF ปี 2567 โปรด คลิกที่นี่

Rohith Murthy ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MoneyHero กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นที่ได้จัดงานครั้งสำคัญนี้อีกครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 5,000 รายที่กระตือรือร้นในการพัฒนาความรู้ทางการเงินของตน “เทศกาลนี้เป็นรากฐานสำคัญของความมุ่งมั่นของเราในการให้ความรู้และเพิ่มศักยภาพแก่บุคคลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการมีความรู้ในด้านการเงิน ความสำเร็จของเราเป็นข้อพิสูจน์ถึงภารกิจที่ยั่งยืนของเราในการทำหน้าที่เป็นทรัพยากรชั้นนำของภูมิภาคและผู้สนับสนุนในด้านการเงินส่วนบุคคล PFF ประจำปีนี้ ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ที่สุดของเรา ได้ตอกย้ำความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของเราสู่ความเป็นเลิศในด้านเทคโนโลยี การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และการเข้าถึงการศึกษา”

ผู้สนับสนุนเทศกาลปีนี้ได้แก่: CIMB Bank, Citibank, DBS Bank, FWD, IPP Licensed Financial Advisers, OCBC, POSB Bank, Prudential, Manulife และ Singlife และผู้สนับสนุนรายอื่น ๆ อีกมากมาย หากต้องการดูรายชื่อผู้สนับสนุน PFF ปี 2567 ทั้งหมด โปรด คลิกที่นี่

“ในนามของ Seedly และ MoneyHero ผมอยากจะขอบคุณวิทยากรและผู้สนับสนุนที่ยอดเยี่ยมของเราที่เป็นพันธมิตรที่น่าทึ่งในเทศกาลปีนี้” Yeap Ming Feng หัวหน้าหน่วยธุรกิจ Seedly ของ MoneyHero กล่าวเสริม “การเริ่มต้นจากการรวมตัวกันของชุมชนเล็ก ๆ ในปี 2561 ได้กลายมาเป็นงานประจำปีที่ชาวสิงคโปร์ต้องเข้าร่วม ขณะนี้อยู่ในปีที่เจ็ด PFF มีการพัฒนาอย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น และความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของทีมงานของเราในการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ดังกล่าว เช่นเดียวกับการดึงดูดวิทยากรที่มีชื่อเสียงและผู้สนับสนุนที่ทรงพลัง ผมภูมิใจที่จะบอกว่าเทศกาลปี 2567 ถือเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและดีที่สุดของเรา และผมขอแนะนำให้ทุกคนที่สนใจควบคุมสุขภาพและอนาคตทางการเงินของตนเองให้ดีขึ้นเพื่อเข้าร่วมกับเราในปีหน้า!”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PFF ปี 2567 โปรด คลิกที่นี่

ดาวน์โหลดภาพไฮไลต์กิจกรรมที่มีความละเอียดสูงได้ที่นี่: Seedly Personal Finance Festival ประจำปี 2567

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MoneyHero รวมถึงข้อมูลสำหรับนักลงทุนและการเรียนรู้เกี่ยวกับโอกาสในการร่วมงานกับเราได้ที่ www.MoneyHeroGroup.com

เกี่ยวกับ MoneyHero Group
MoneyHero Limited (NASDAQ: MNY) เดิมชื่อ Hyphen Group หรือ CompareAsia Group เป็นผู้นำตลาดในภาคส่วนการรวบรวมและการเปรียบเทียบทางการเงินส่วนบุคคลออนไลน์และการประกันภัยดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทมีการดำเนินงานในสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย โดยมีแบรนด์ที่เกี่ยวข้องสำหรับตลาดท้องถิ่นแต่ละแห่ง ปัจจุบัน MoneyHero จัดการความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางการค้าและบริการ 279 รายการ อีกทั้งมีผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันรายเดือน 8.7 ล้านรายทั่วทั้งแพลตฟอร์มในช่วง 12 เดือนที่มีการวัดจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผู้สนับสนุนของบริษัท ได้แก่ Peter Thiel ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal, Palantir Technologies และ Founders Fund และ Richard Li นักธุรกิจชาวฮ่องกงซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Pacific Century Group หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ MoneyHero และวิธีการที่บริษัทฟินเทคแห่งนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โปรดไปที่ www.MoneyHeroGroup.com

หากต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อ:

นักลงทุน:ทีมงานนักลงทุนสัมพันธ์ของ MoneyHeroIR@MoneyHeroGroup.com

สื่อ:Gaffney Bennett ฝ่ายการประชาสัมพันธ์

MoneyHero@gbpr.com

____________________
1
เรียงตามตัวอักษรตามชื่อขององค์กร

สามารถดูภาพประกอบสำหรับประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/95eb1491-f1c2-45e6-bc4b-b6044f605f75

GlobeNewswire Distribution ID 9088811

Biognosys และ Alamar Biosciences สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านโปรตีโอมิกส์เพื่อพัฒนาการวิจัยเกี่ยวกับชีวเภสัชกรรมและแนวทางการแพทย์แม่นยำ

  • ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้ได้ขยายบริการของ Biognosys ให้ครอบคลุมการตรวจ NULISA ของ Alamar ตลอดจนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ร่วมกันในด้านโปรตีโอมิกส์จากไบโอฟลูอิด
  • มูลค่าเพิ่มเติมของแพลตฟอร์มโปรตีโอมิกส์ที่เป็นกลางสำหรับตรวจด้วยการวิเคราะห์ DIA-MS ของ Biognosys และแพลตฟอร์มการตรวจทางภูมิคุ้มกันที่สร้างความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงของ Alamar เพื่อนำเสนอในการประชุมประจำปี AACR 2024

ซูริก, สวิตเซอร์แลนด์และฟรีมอนต์, แคลิฟอร์เนีย, April 12, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) — Biognosys ผู้นำระดับโลกด้านโปรตีโอมิกส์ที่ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ Mass Spectrometry และ Alamar Biosciences, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินงานด้านโปรตีโอมิกส์ที่มีความแม่นยำเพื่อช่วยให้สามารถตรวจพบโรคได้เร็วที่สุด ได้มีความยินดีที่จะประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในด้านตัวบ่งชี้ทางชีวภาพด้วยโปรตีโอมิกส์จากไบโอฟลูอิด ความร่วมมือครั้งนี้ได้ผสานรวมความเชี่ยวชาญของ Biognosys ในการค้นพบที่เป็นกลางผ่านการวิเคราะห์ Data-free Acquisition Mass Spectrometry (DIA-MS) และการตรวจทางภูมิคุ้มกันที่ล้ำสมัยของ Alamar เข้าด้วยกัน วิธีการแบบบูรณาการนี้ช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับตัวบ่งชี้ทางชีวภาพโดยการรวมการดำเนินการโปรตีโอมิกส์ผ่านการวิเคราะห์ DIA-MS ที่เป็นกลางในเชิงลึกเข้ากับการตรวจ NULISA ระดับกลางและสูงที่มีความไวในการตอบสนองสูงเป็นพิเศษและมีความละเอียดสูงสำหรับโปรตีนที่มีปริมาณน้อย เช่น ไซโตไคน์ คีโมไคน์ และตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของโปรตีนโรคที่สำคัญจากพลาสมา

ในการบรรยาย Industry Spotlight Theater ซึ่งจัดโดย Alamar ในการประชุมประจำปีของ American Society for Cancer Research (AACR) ปี 2024 ที่เมืองซานดิเอโกในวันที่ 9 เมษายน เวลา 12:30 น. (เวลามาตรฐานแปซิฟิก) บริษัทต่าง ๆ จะร่วมกันนำเสนอข้อมูลจากการศึกษาวิจัยร่วมกันที่เน้นเรื่องมะเร็งปอดชนิดเซลล์ขนาดไม่เล็ก (NSCLC) ในการศึกษาวิจัยนี้ มีการวิเคราะห์ตัวอย่างพลาสมาจากกลุ่มผู้ป่วย NSCLC โดยใช้ทั้งแพลตฟอร์มการตรวจที่เป็นกลาง TrueDiscovery® ของ Biognosys และ NULISAseq™ Inflammation Panel 250 ของ Alamar การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของการวิเคราะห์แบบบูรณาการ และเน้นย้ำถึงข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมที่ได้จากการวิเคราะห์ Mass Spectrometry และการตรวจวิเคราะห์สายสัมพันธ์ (Affinity) ในพลาสมา

จากการศึกษาเพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้ของแนวคิดที่ประสบความสำเร็จนี้ Biognosys และ Alamar จึงได้วางแผนความร่วมมือเพิ่มเติมทั้งในเชิงพาณิชย์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของทั้งสองบริษัท

  1. บริการตรวจวิเคราะห์ NULISA: Biognosys จะให้บริการวิเคราะห์ NULISA จากศูนย์ปฏิบัติงานที่ทันสมัยในสวิตเซอร์แลนด์สำหรับการตรวจวัดระดับไซโตไคน์ คีโมไคน์ ซึ่งในอดีตนั้นสามารถตรวจวัดได้ยาก ตลอดจนตัวบ่งชี้เฉพาะโรคที่สำคัญอื่น ๆ จากพลาสมาและไบโอฟลูอิด การตรวจวิเคราะห์ที่มีความไวในการตอบสนองสูงเป็นพิเศษเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุจำนวนโปรตีนที่มีปริมาณน้อยได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้นักวิจัยได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีความสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการทางชีววิทยาที่ซับซ้อน การตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวช่วยเสริมการวิเคราะห์ DIA-MS ที่เป็นกลางของโปรตีนในพลาสมาหลายพันชนิด เพื่อขยายความเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาของระบบทั่วร่างกาย และการอักเสบหรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการม้วนพับของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโรคอื่น ๆ
  2. ความร่วมมือในการวิจัย: Biognosys และ Alamar จะเริ่มดำเนินการในโครงการริเริ่มการวิจัยร่วมกันเพื่อศึกษาเกี่ยวกับชีววิทยาของพลาสมา ด้วยการใช้ประโยชน์จากวิธีการตรวจที่เป็นกลางของ Biognosys ควบคู่ไปกับการตรวจวิเคราะห์ที่มีความไวในการตอบสนองสูงเป็นพิเศษของ Alamar ทางทีมงานมุ่งมั่นที่จะเปิดเผยกลไกการเกิดโรคทางชีววิทยาด้วยการแสดงภาพโปรตีโอมในพลาสมาที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถครอบคลุมช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณโปรตีนในพลาสมาที่ถือได้ว่าเป็นระดับที่สมบูรณ์ได้เป็นครั้งแรก

Oliver Rinner, ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Biognosys ได้แสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันโดยกล่าวว่า: “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Alamar เพื่อพัฒนาการวิจัยโปรตีโอมิกส์ ความพยายามร่วมกันของเราจะปูทางไปสู่ความก้าวหน้าด้านชีววิทยาของพลาสมา โดยการวิเคราะห์โปรตีนมากกว่า 5,000 ชนิดอย่างเป็นกลาง พร้อมสารกลุ่มโปรตีนไซโตไคน์ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีหลายร้อยตัวและโปรตีนปริมาณน้อยที่มีความสำคัญสูงอื่น ๆ โดยใช้วิธีการตรวจวิเคราะห์ NULISA ที่มีความละเอียดสูง เรามุ่งที่จะครอบคลุมช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของโปรตีนในพลาสมาด้วยวิธีการดังกล่าวนี้

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Biognosys เพื่อช่วยให้ชุมชนการวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโปรตีโอมิกส์ได้มากขึ้น ตั้งแต่การตรวจหาไปจนถึงการวิจัยทางคลินิก” กล่าวโดย Yuling Luo, ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, ประธานบริษัท, ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Alamar “ทาง Biognosys นั้นเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการตรวจโปรตีโอมิกส์ด้วยวิธี Mass Spectrometry ขั้นสูงแก่นักวิจัยทั่วโลก และเราก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เพิ่มการตรวจทางภูมิคุ้มกันแบบหลายระดับที่มีความไวการตอบสนองสูงสุดนี้ให้กับข้อเสนอการวิเคราะห์โปรตีโอมิกส์ในพลาสมาของพันธมิตรท่านดังกล่าว”

ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการสร้างสรรค์ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และการมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาแนวทางการแพทย์แม่นยำผ่านเทคโนโลยีนวัตกรรมต่าง ๆ

แพลตฟอร์มการตรวจโปรตีโอมิกส์ที่เป็นกลางด้วยวิธี DIA Mass Spectrometry ของ Biognosys

Spectronaut® ซอฟต์แวร์การวิเคราะห์โปรตีโอมิกส์ด้วยวิธี DIA ของ Biognosys

แพลตฟอร์ม NULISA™ ของ Alamar: มาตรฐานใหม่ในการวิเคราะห์โปรตีโอมิกส์

Alamar’s NULISA™ platform: a new standard in proteomic analysis

ดูสื่อย่อยที่มาพร้อมกับประกาศนี้ได้โดยการคลิกลิงก์นี้

เกี่ยวกับ Biognosys

ที่ Biognosys เราเชื่อว่าข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโปรตีโอมถือเป็นกุญแจสำคัญในการค้นพบที่นำไปสู่ความก้าวหน้าต่าง ๆ ซึ่งช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยผลงานที่หลากหลายของโซลูชันโปรตีโอมิกส์แห่งอนาคต รวมถึงแพลตฟอร์มบริการการวิจัย TrueDiscovery®, TrueTarget® และ TrueSignature® ซอฟต์แวร์เรือธง Spectronaut® และชุดอุปกรณ์ PQ500™ เราได้ทำให้โปรตีโอมสามารถนำไปใช้ได้จริงในการส่งเสริมการวิจัย การพัฒนายา และการตัดสินใจทางคลินิก โซลูชันของเรานำเสนอมุมมองหลายมิติเกี่ยวกับการแสดงภาพ การทำงาน และโครงสร้างของโปรตีนในสายพันธุ์ทางชีวภาพและประเภทตัวอย่างทั้งหมด เทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครและได้รับการจดสิทธิบัตรของเราใช้วิธี Mass Spectrometry ที่มีความละเอียดสูง เพื่อระบุจำนวนโปรตีนหลายพันชนิดด้วยความแม่นยำ ลึกซึ้ง และระดับปริมาณงานชั้นนำของอุตสาหกรรม การร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างเรากับ Bruker (Nasdaq: BRKR) ได้ช่วยให้โปรตีโอมิกส์สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ biognosys.com

เกี่ยวกับ Alamar

Alamar Biosciences เป็นบริษัทเอกชนด้านชีววิทยาศาสตร์ซึ่งมีพันธกิจในการขับเคลื่อนการตรวจสอบโปรตีโอมิกส์ความแม่นยำสูงเพื่อให้สามารถตรวจพบโรคได้เร็วที่สุด แพลตฟอร์ม NULISA ที่เป็นเอกสิทธิ์ของบริษัทและระบบ ARGO™ HT System นั้นสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นกับเทคโนโลยีล่าสุดด้านจีโนมิกส์ เพื่อการตรวจจับอะตอมโมลาร์ด้วยความไวเพียงหนึ่งหลัก ซึ่งเหนือกว่าเทคโนโลยีการตรวจจับโปรตีนที่มีความไวในการตอบสนองมากที่สุดในตลาดปัจจุบันเป็นอย่างมาก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ alamarbio.com

ข่าวฉบับภาษาอังกฤษเป็นเวอร์ชันทางการและได้รับอนุญาตแล้วของข่าวนี้ คำแปลนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น และควรจะเทียบกับข้อความต้นฉบับ ซึ่งถือว่าเป็นข้อความที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

ดูรูปถ่ายประกอบการประกาศนี้ได้ที่:

http://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/b9485cd0-929f-48e9-b405-efdfbf7b5caa

http://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/5eabe48a-06b5-4c37-8181-d5ff5a41a1cb

ติดต่อ

Biognosys AG

Yves Serroen
โทรศัพท์ +41 (0) 44 244 50 07
yves.serroen@biognosys.com

Alamar Biosciences, Inc

ติดต่อด้านสื่อ:

April Falcone
โทรศัพท์ +1 (510) 838-1783
afalcone@alamarbio.com

ติดต่อนักลงทุน:
investors@alamarbio.com

GlobeNewswire Distribution ID 1000934323