Day: May 10, 2022

ควิเบก, May 10, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — LeddarTech^® ผู้นำระดับโลกในการจัดหาเทคโนโลยี การตรวจจับ ADAS และ AD ที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และแม่นยำที่สุด ยินดีที่จะประกาศเปิดตัว LeddarSteer™ อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโซลูชันการบังคับเลี้ยวด้วยลำแสงดิจิทัลที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาเซ็นเซอร์อัจฉริยะ LiDAR และซัพพลายเออร์ยานยนต์ระดับ 1-2

การบังคับเลี้ยวด้วยลำแสงดิจิทัลหมายถึงการเปลี่ยนทิศทางของพัลส์เลเซอร์ใน LiDAR การใช้เซลล์คริสตัลเหลวสลับกันและตะแกรงโพลาไรซ์ช่วยให้บังคับทิศทางแสงในมุมต่าง ๆ ที่ความยาวคลื่นเฉพาะ เพื่อเพิ่มขอบเขตการมองเห็นของ LiDAR ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพของมันให้สูงสุด ซึ่งทำให้ LiDAR สามารถใช้การบังคับเลี้ยวด้วยลำแสงดิจิทัลได้สำเร็จ

การบังคับเลี้ยวด้วยลำแสงดิจิทัลของ LeddarSteer มีประโยชน์มากมายสำหรับนักพัฒนาเซ็นเซอร์อัจฉริยะ LiDAR และลูกค้าระดับ 1 และ 2 ซึ่งรวมถึง:

• การปรับในขณะที่ยานพาหนะกำลังแล่นที่ควบคุมโดยซอฟต์แวร์
  • การปรับแบบเฟรมต่อเฟรม
  • การกำหนดค่าแบบกำหนดเองหรือกำหนดค่าตามที่มีไว้ให้แล้ว
  • การตั้งค่าและอินเทอร์เฟซที่ง่ายดาย
  • และพวงมาลัยซึ่งควบคุมด้วยแรงดันไฟฟ้า

• แอปพลิเคชัน LiDAR
  • หลายรายการนั้นมีความเข้ากันได้กับสถาปัตยกรรม LiDAR
  • ที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ LiDAR หนึ่งรายการสามารถจัดการกับการใช้งานได้ในหลาย ๆ กรณี
  • อีกทั้งยังมีขอบเขตการมองเห็นที่ปรับได้สำหรับการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเลี้ยว การออก การเปลี่ยนเลนและการวิ่งบนทางลาด
  • นอกจากนี้ การใช้ LiDAR เดียวกันสำหรับการขับขี่บนทางหลวงและในเมืองก็ช่วยลดจำนวนเซ็นเซอร์ลง
  • ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

• เทคโนโลยีโซลิดสเตตเกรดยานยนต์ ส่งผลให้ MTBF สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (หมายถึงระยะเวลาเฉลี่ยก่อนการเสียหายแต่ละครั้งหรือ time between failures)

LeddarSteer สามารถรวมเข้ากับ LiDAR ที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่นเพื่อช่วยในการขยายขอบเขตการมองเห็น หรือรวมเข้ากับการพัฒนา LiDAR ใหม่ ๆ ก็ได้เช่นกัน โซลูชันนี้ช่วยปรับปรุงอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวนโดยใช้การเน้นพลังงานเลเซอร์ในพื้นที่เล็ก ๆ ที่สนใจ ควบคู่ไปกับการลดขนาด ค่าใช้จ่าย และความซับซ้อนของส่วนประกอบ LiDAR ในขณะที่ยังคงรักษาหรือเพิ่มจำนวนพิกเซลและความละเอียดเอาไว้ได้

Charles Boulanger ซีอีโอของ LeddarTech กล่าวว่า “กว่าทศวรรษแล้วที่ LeddarTech ได้เป็นผู้นำในการพัฒนาโซลูชันการตรวจจับที่ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถส่งมอบเซ็นเซอร์ ADAS และ AD ต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง” และสุดท้าย คุณ Boulanger ก็ได้กล่าวสรุปว่า “LeddarSteer เป็นส่วนประกอบอัจฉริยะในการบังคับเลี้ยวด้วยลำแสงดิจิทัลเพียงชิ้นเดียวที่ออกแบบมาสำหรับการผลิตจำนวนมาก โดยมีทั้งความยืดหยุ่น ความน่าเชื่อถือ ราคา ขนาด และประสิทธิภาพที่แอปพลิเคชันการตรวจจับ 3 มิติที่มีความต้องการมากที่สุดนั้นต้องการ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากกระบวนการผลิตยานยนต์มาตรฐานอีกด้วย”

เกี่ยวกับ LeddarTech

LeddarTech ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยเป็นบริษัทตรวจจับข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาด้านการตรวจจับ การฟิวชัน และการรับรู้ที่สำคัญตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า LeddarTech มอบโซลูชันการรับรู้ที่คุ้มค่าซึ่งปรับขนาดได้ตั้งแต่ ADAS ระดับ 2 ไปจนถึงระดับ 5 แบบอิสระเต็มรูปแบบด้วย LeddarVision™ ซึ่งเป็นฟิวชันเซ็นเซอร์ข้อมูลดิบและแพลตฟอร์มการรับรู้ที่สร้างแบบจำลองสภาพแวดล้อม 3 มิติที่ครอบคลุมจากเซ็นเซอร์และการกำหนดค่าหลากหลายประเภท LeddarTech ยังสนับสนุนผู้ผลิต LiDAR และซัพพลายเออร์ยานยนต์ระดับ 1-2 ด้วยบล็อกสิ่งก่อสร้างทางเทคโนโลยีหลัก เช่น ระบบบังคับเลี้ยวด้วยลำแสงดิจิทัล LeddarSteer™ และ LeddarEngine™ ซึ่งสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Leddar™ ของ LeddarTech โดยใช้การรับสัญญาณที่จดสิทธิบัตรและเทคนิคการประมวลผลเพื่อสร้างสัญญาณย้อนกลับที่ที่ชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยต้นทุนที่น้อยลง LeddarEngine ประกอบด้วย LiDAR SoC และการรวมกันของซอฟต์แวร์ที่มีรูปแบบการผสมผสานที่สูงและสามารถปรับขนาดได้ ซึ่งช่วยให้นักพัฒนา LiDAR และซัพพลายเออร์ยานยนต์ระดับ 1-2 สามารถออกแบบโซลูชัน LiDAR ของตนเองได้ บริษัทเป็นผู้รับผิดชอบในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแอปพลิเคชันตรวจจับยานยนต์และการเคลื่อนที่ระยะไกลที่ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรมากกว่า 120 รายการ (ทั้งที่จดสิทธิบัตรแล้วหรือรอดำเนินการ) ที่ช่วยเสริมขีดความสามารถ ADAS และการขับขี่แบบอัตโนมัติ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LeddarTech ได้ที่ www.leddartech.com และบน ลิงกต์อิน, ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก และ ยูทูบ

ติดต่อ:Daniel Aitken รองประธาน ฝ่ายการตลาดระดับโลก ฝ่ายการสื่อสารและนักลงทุนสัมพันธ์ของ LeddarTech Inc.โทร.: +1-418-653-9000 ต่อ 232 daniel.aitken@leddartech.com

ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์:InvestorRelations@leddartech.com                https://investors.leddartech.com/

Leddar, LeddarTech, LeddarSteer, LeddarEngine, LeddarVision, LeddarSP, LeddarCore, LeddarEcho, VAYADrive, VayaVision, XLRator และโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ LeddarTech Inc. และบริษัทในเครือ แบรนด์ ชื่อผลิตภัณฑ์ และเครื่องหมายอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นหรืออาจเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่ใช้เพื่อระบุผลิตภัณฑ์หรือบริการของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพประกอบของการแถลงนี้สามารถรับชมได้ที่: https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/75f154a6-27b8-4546-8614-00d3885feef0

วิดีโอประกอบของข่าวประชาสัมพันธ์นี้สามารถดูได้ที่: https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/95010106-6e76-4996-ac0a-3c68c7c09d3d

SINGAPORE, May 09, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — Today, AscendEX is excited to announce the forthcoming listing of two tokens, the Enjin token (ENJ) under the trading pair (ENJ/USDT) and the Efinity token (EFI) under the trading pair (EFI/USDT) on May 10th at 1 P.M UTC.

Launched in 2018, AscendEX is a global cryptocurrency exchange, servicing over 1 million retail and institutional clients globally, through its comprehensive product suite including spot, margin, and futures trading, wallet services, and staking support for over 200 blockchain projects such as bitcoin, ether, and ripple. With both Enjin and Efinity built on Polkadot, AscendEX signals an entry point for investors looking to get involved in the Polkadot ecosystem.

Enjin’s Platform Powering Digital Assets

Enjin is a product ecosystem that is helping create advanced virtual economies through the power of blockchain technology. The Enjin Platform, Wallet, Marketplace, Explorer, and Beam make up an integrated blockchain ecosystem, and provide the tools and solutions developers and businesses need to tokenize NFTs and integrate them into software. Enjin’s blockchain ecosystem supports projects across gaming, metaverse, virtual reality, collectibles, digital fashion and more. Pioneering creators, developers, and companies like Microsoft (Azure Heroes), Samsung (Samsung Blockchain Keystore), and BMW (Vantage), have integrated Enjin’s products and services already.

With Enjin, users can create as many wallets as they need, from a daily expense or savings wallet to a dedicated wallet for blockchain gaming and trading NFTs. Users can import old wallets and easily track hardware wallets, like Trezor or Ledger.

As of July 2021, ENJ had a market cap of $1.5 billion, with over $800 million held by more than 125,000 ENJ token holders worldwide. ENJ recently made headlines as the first gaming token to be approved for use in Japan under the JVCEA, after receiving approval from Japan’s financial regulators to be listed on CoinCheck in January 2021.

Efinity’s Purpose-built NFT Experience
In collaboration with the Web3 Foundation, the Enjin platform is being used to power Efinity, a next-generation blockchain for NFT, built on Polkadot. Efinity is not a general computing blockchain, but a NFT highway that prioritizes Token creation, transfers, and purchases on the network. A benefit to using Efinity’s platform is their focus on allowing users to experience their favorite collectibles, without worrying about transaction fees and how the network operates.

The Challenge with the NFT Landscape
The current landscape requires Creators to work with crippling fees, inflexible smart contracts and disjointed interoperability and adoption of NFTs is still limited to crypto enthusiasts. The blockchains that non-fungible tokens live on give actual users no incentives, because miners are given the full share of generated tokens. Prices rise, infrastructure companies create silos and paywalls, and it becomes difficult to make real progress in this industry. Efinity was built to solve these problems, by compensating network participants with the EFI token.

Businesses and developers require a platform that can deliver a modern, mainstream and developer-friendly NFT experience. Since the release of Ethereum, there have been attempts to build infrastructure and tokenization around this general-purpose computing blockchain, but there continues to be an ever-growing desire for a better solution.

Efinity’s Solution to Enhance the NFT Experience
Efinity will be a hub for all fungible and non-fungible tokens. The Efinity blockchain is a parachain that uses Polkadot Relay Chain validators for its consensus, which allows Efinity to have an independent economic framework, data, and state. The Paratoken standard accepts tokens from any other chain, including the popular ERC-721, ERC-1155, and ERC-20 standards. The network that solves the challenge of facilitating the pricing and exchange of NFTs will naturally gain traction because it will create network effects by attracting increasing volumes of transactions. Tokens don’t need to be listed for sale or even exist on the network to receive a bid. In fact, users can be compensated for initiating Bid Orders or Ask Orders and stimulating network usage by initiating transactions which may be completed by other users.

This mechanism will naturally attract buyers and sellers to join the platform and create network effects by incentivizing users to initiate transactions. This functionality is intended to be further developed by third party apps that facilitate transfers within other platforms including games that function as NFT Marketplaces.

For more information and updates on AscendEX, please visit:

Website: ascendex.com
Twitter: twitter.com/AscendEX_Global
Telegram: t.me/AscendEXEnglish
Medium: medium.com/ascendex

For more information and updates about Enjin, please visit:

Website: enjin.io/
Twitter: twitter.com/enjin
Telegram: t.me/enjin

For more information and updates about Efinity, please visit:

Website: efinity.io/
Twitter: twitter.com/efinityio

Media Contact:
ryleigh@serotonin.co
+16476466270

Relationship to Support Brightspeed’s Planned Fiber Deployments Across 20-State Footprint

Multi-Year Agreement Features interconnectNOW and Financial Analytics
to Help Orchestrate Service Requests and Manage Trading Partner Expense

BRIDGEWATER, N.J., May 09, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — Synchronoss Technologies Inc. (“Synchronoss” or the “Company”) (Nasdaq: SNCR), a global leader and innovator in cloud, messaging and digital products and platforms, today announced that it has signed a multi-year agreement with Brightspeed, a provider of broadband and telecommunications services expected to have operations in 20 States. Brightspeed will initially be comprised of the incumbent local exchange carrier (ILEC) assets and associated operations of Lumen Technologies (NYSE: LUMN), which are the subject of a pending acquisition by Apollo-managed funds (NYSE: APO).

Brightspeed will utilize two key modules from the Synchronoss networkX Platform – interconnectNOW (iNOW) and Financial Analytics (FA) – for its planned fiber deployments throughout its multi-state territory across rural and suburban regions of the United States.

Brightspeed previously announced plans to invest more than $2 billion to build a network that will bring faster, more reliable Internet and Wi-Fi to communities throughout the Midwest, Southeast, and certain parts of Pennsylvania and New Jersey.   The company’s planned fiber optics transformation is expected to reach up to three million homes and businesses over the next five years, including in many places where fiber and advanced technology have not historically been deployed.

“As Brightspeed continues to build out its fiber optics network, iNOW and Financial Analytics will be integral in managing the company’s wholesale carrier operations,” said Chris Hill, Chief Commercial Officer at Synchronoss. “Automating and orchestrating orders throughout the lifecycle will enable Brightspeed to keep pace with customer requests and realize revenue faster.”

“Our partnership with Synchronoss will provide us access to their state-of-the-art platforms to achieve exceptional efficiencies in managing our wholesale carrier orders and trading partner transactions,” said Chris Creager, Chief Administration Officer of Brightspeed. “From end-to-end, iNOW will enable us to track orders and help us deliver world-class connectivity products and services to the communities we look forward to serving.”

The iNOW platform eliminates manual handling of service orders and manages the full lifecycle between customer and supplier via automation and rules-based validation. It provides a single interface and database for all buyer and supplier orders, making it easy to track orders from receipt to fulfillment, reconciles billing, and provides real-time reporting – shortening time to revenue.

The Financial Analytics platform streamlines the management of complex carrier invoicing via automated workflow and intuitive rules engines for auditing, accounting, validation, and payment of invoices. FA empowers service providers such as Brightspeed with the necessary tools and processes to ensure intercarrier expenses are thoroughly analyzed and confirmed prior to payment.

Leading service providers from around the world utilize Synchronoss and the iNOW platform to manage 39 million orders and transactions annually from 5,000 integrated operators.

About Synchronoss

Synchronoss Technologies (Nasdaq: SNCR) builds software that empowers companies around the world to connect with their subscribers in trusted and meaningful ways. The company’s collection of products helps streamline networks, simplify onboarding, and engage subscribers to unleash new revenue streams, reduce costs and increase speed to market. Hundreds of millions of subscribers trust Synchronoss products to stay in sync with the people, services, and content they love. That’s why more than 1,500 talented Synchronoss employees worldwide strive each day to reimagine a world in sync. Learn more at www.synchronoss.com.

About Brightspeed

Headquartered in Charlotte, N.C. and expected to have assets and associated operations in 20 states, Brightspeed will provide broadband and telecommunications services through a network platform capable of serving more than six million homes and businesses. The company aims to bridge the digital divide by deploying a state-of-the-art fiber network and a customer experience that makes staying connected simple and seamless. Learn more at www.brightspeed.com.

Synchronoss

Media Relations Contact:
Domenick Cilea
Springboard
dcilea@springboardpr.com

Investor Relations Contact:
Matt Glover / Tom Colton
Gateway Group, Inc.
SNCR@gatewayir.com

Brightspeed

Media Relations Contact:
Erik Carlson
Joele Frank, Wilkinson Brimmer Katcher
(212) 355-4449
pr@brightspeed.com